29-11-2017

Waymo รถไร้คนขับจากGoogle ทำสถิติใหม่บนท้องถนนทะลุ 4 ล้านไมล์

บทความโดย
  • รถไร้คนขับWaymo จากกูเกิ้ลวิ่งบนท้องถนนปกติถึง 4 ล้านไมล์แล้ว
  • ไมล์ที่ 4 ล้านบนท้องถนนได้ภายใน 6 เดือน
  • Waymo วิ่งมาแล้ว 23 เมืองในสหรัฐอเมริกา
  • มีการทดสอบด้วยซิมูเลชั่นกว่า 2.5พันล้านรูปแบเพื่อทดสอบการขับขี่บนท้องถนน

เทคโนโลยีหนึ่งที่ทุกบริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์เร่งพัฒนาอย่างถึงที่สุดคือ “รถไร้คนขับ” (self-driving cars) ที่มีคู่แข่งหน้าใหม่ที่ไม่ใช่บริษัทรถยนต์แบบดั้งเดิมแต่เป็นบริษัทซอฟท์แวร์ชั้นนำของโลกอย่าง Google ที่ลงทุนในโครงการรถไร้คนขับในชื่อ Waymo  

ความเป็นมาคร่าวๆของ Waymo

Waymo เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2009  โดยเริ่มต้นด้วยการใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น พรีอุส ในช่วงแรกวิ่งได้ราว 100 ไมล์บนเส้นทาง 10 เส้นทางที่แตกต่างกัน ต่อมาในปี 2012 ได้นำชุดไร้คนขับมาติดตั้งกับรถยี่ห้อ Lexus รุ่น RX450h  โดยได้ทดสอบบนถนนกว่า 30,000 ไมล์ มีอาสาสมัครจากใน Google มาร่วมทดสอบใช้งานบนเส้นทางไปทำงานและใช้ในวันหยุดสุดสัปดาห์  รวมทั้งริเริ่มวิ่งในเส้นทางภายในเมืองที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

ภาพจาก Waymo

ในปี 2015 ได้เปิดตัวรถไร้คนขับรุ่น “Firefly” หรือ หิ่งห้อย โดย Google ออกแบบใหม่ทั้งหมดเป็นรถไร้คนขับขนาดเล็กซึ่งระบบนำทางเป็นแบบกำหนดเองโดยไม่มีพวงมาลัยและแป้นเหยียบ ล่าสุดเมื่อต้นปี 2017 นี้ทางอัลฟาเบ็ต บริษัทแม่ของกูเกิล  ได้หยุดทดสอบรถรุ่นนี้ลงแล้วเปลี่ยนมาเป็นรถ SUV แทน โดยเน้นความสำคัญเรื่องการขยายขนาดเข้าสู่ตลาดรถที่ใหญ่ขึ้น ได้นำ Chrysler Pacifica มาทดสอบเป็นรถไร้คนขับแบบ SUV รุ่นแรก

ภาพจาก Waymo

จนถึงตอนนี้ Waymo วิ่งไปแล้วกว่า 4 ล้านไมล์บนท้องถนน แน่นอนว่าเป้าหมายใหญ่ของWaymo คือการเป็นรถไร้คนขับแบบแรกของโลกที่จะถูกนำมาใช้เต็มรูปแบบโดยไม่ต้องมีที่นั่งคนขับในรถเลย นับว่าเป็นความท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างที่สุด

ก้าวเข้าสู่ 4 ล้านไมล์

ในการเข้าสู่ 4 ล้านไมล์ของรถไร้คนขับในครั้งนี้ ได้ผ่านการทดสอบอย่างหนักหน่วงด้วยการจำลองทดสอบสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนกว่า 20,000 สถานการณ์บนพื้นที่ทดสอบกว่า 91 เอเคอร์ โดยจะจำลองสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นโดยไม่คาดคิดเช่นคนกระโดดออกมาจากริมทาง หรือการจำลองการเกิดชนแบบต่างๆ  นอกจากนี้ยังมีการจำลองสถานการณ์แบบซิมูเลชั่นกว่า 2.5 พันล้านรูปแบบบนท้องถนนที่ ซึ่งทุกวันจะมีการจำลองรูปแบบเสมือนจริงบนท้องถนนกว่า 25,000 รูปแบบให้รถได้เรียนรู้อย่างรวดเร็ว

จากกราฟจะเห็นการพัฒนาในแต่ละล้านไมล์ของ Waymo ว่ามีความเร็วในการพัฒนาตัวเองที่ทำให้สามารถขับเคลื่อนรถยนต์แบบไร้คนขับอย่างเต็มประสิทธิภาพขนาดไหน ถ้าการทดสอบทะลุถึง 10 ล้านไมล์ในอนาคตอันใกล้ และผ่านการทดสอบนอกประเทศสหรัฐในหลายพื้นที่ทั่วโลกมากขึ้น เราอาจเห็นความก้าวหน้าของรถไร้คนขับที่มีประสิทธิภาพด้วยเวลาอันสั้นลงก็เป็นได้

ภาพจาก Waymo

 

ส่วนหนึ่งต้องยกให้การจำลองการขับขี่บนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นหลายล้านรูปแบบให้กับระบบ AI ของรถได้ทดสอบและเรียนรู้ในแต่ละวันอย่างเข้มข้นเพื่อคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรกทำให้การพัฒนาของรถไร้คนขับรวดเร็วมากยิ่งขึ้ย ล่าสุด Waymo เดินทางทดสอบผ่านเมืองสำคัญของสหรัฐ กว่า 23 เมืองแล้วตั้งแต่ ซานฟรานซิสโก  มาจนถึงหุบเขาของเทือกเขาซานตาครูซ ตลอดทั้งเผชิญพายุทรายในอริโซน่า เป็นต้น

ภาพจาก Waymo

หลังจากนี้อัตราการก้าวกระโดดของรถยนต์ไร้คนขับจะถุฏผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าตัวอัตราที่เร่งมากขึ้น เมื่อใดก็ตามรถยนต์ไร้คนขับถูกวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ จะเห็นการเปลี่ยนโฉมหน้าครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่จะไม่ย้อนกลับมายังยุคที่เราคุ้นเคยอีกต่อไป

Credit: Waymo, TheVerge