โตยังไงหากเจ้านายไม่อยู่แล้ว
- หัวหน้าถือเป็นสิ่งสำคัญกับการเติบโตทางอาชีพและการทำงาน จะทำอย่างไรหากเจ้านายของเราไม่อยู่แล้ว
- หากเจ้านายลาออกหรือถูกไล่ออกจากความขัดแย้งในบริษัท เราซึ่งเป็นลูกน้องจะต้องทำตัวอย่างไรก็สถานการณ์เช่นนี้
- เราจะเติบโตในหน้าที่การงานได้อย่างไร หากเจ้านายของเราโดนไล่ออก
การทำงานในองค์กรหรือบริษัท เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องมีหัวหน้าหรือเจ้านาย แต่เมื่อใดก็ตามที่หัวหน้าหรือเจ้านายของเรานั้นถูกไล่ออก หรือลาออกไปพร้อมกับความขัดแย้งกับบริษัท ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับเราซึ่งเป็นลูกน้อง ซึ่งยังต้องทำงานที่เดิมเสมอ Kaitlin McCready ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารองค์กรและนักเขียน ได้นำเอาประสบการณ์ตรงมาแนะนำว่าเราควรทำตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนั้น
เมื่อ “Rex Tillerson” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯถูกไล่ออกโดยประธานาธิบดี Trump สิ่งที่น่าคิดถึงไม่ใช่เพียงแค่ตัวของ Mr.Tillerson แต่เป็นบรรดาลูกน้องของเขา ที่ต้องพบกับสถานการณ์ที่เจ้านายของพวกเขาไม่อยู่อีกแล้ว สถานการณ์แบบเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นกับฉันมาแล้วถึง 2 ครั้งกับเจ้านายคนเดียวกัน
ครั้งแรกเป็นช่วงที่ฉันทำงานแรกในชีวิตประมาณ 3 ปีหลังจากจบจากมหาวิทยาลัย ทั้งหัวหน้าและตัวของฉัน ได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นมาพร้อมๆกัน ตัวฉันจากตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้าน PR และหัวหน้าของฉันจากผู้จัดการฝ่าย PR เป็น ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร
เวลาผ่านไปแนวคิดของเขากับองค์กรก็เริ่มไปคนละทิศทาง แต่เจ้านายของฉันยังคงทำหน้าที่อย่างดี มาทำงานตรงเวลา รับผิดชอบงานตามที่ได้รับมอบหมาย หรือแม้แต่มาทำงานในช่วงวันหยุดเมื่อมีโปรเจ็คสำคัญๆ แต่เขาก็ใช้ความพยายามอย่างมากกับสิ่งที่เขาเรียกว่า “การสร้างอาณาจักร” ด้วยการเข้าไปล้ำเส้นคนของแผนกอื่นเพื่อสถานะของตัวเขาเอง
วันหนึ่งฉันส่ง Email ไปหาเจ้านายตอนเช้า และได้รับ Email ตอบกลับว่าเขาไม่ได้ทำงานกับบริษัทนี้อีกแล้ว ฉันรู้สึกเสียขวัญ แต่ไม่แปลกใจ สิ่งที่ทำให้ฉันแปลกใจคือบรรดา Email จากคนในบริษัท ซึ่งมีเนื้อหาขัดแย้งกัน เช่น “ฉันเชื่อว่า คุณต้องดีใจที่เขาไม่อยู่แล้ว” หรือ “แย่จริงๆ ฉันชอบที่จะทำงานกับเขานะ”
ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ความคิดของฉันสับสนไปหมด คำถามเกิดขึ้นมากมาย นี่เป็นการ Lay Off พนักงานหรือเปล่า? ฉันเป็นรายต่อไปใช่ไหม? เจ้านายของฉันทำอะไรผิด? ฉันไปช่วยเขาทำผิดโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า? ตอนนั้นฉันคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคืออยู่เฉยๆจนกว่าจะรู้ข้อเท็จจริง ฉันจึงไม่แสดงท่าทีอะไรกับสถานการณ์ในช่วงนั้น
จากนั้นไม่นานฉันก็ได้รับ Email จากเพื่อนต่างแผนกซึ่งได้รับความนับถือในบริษัทว่า “เขาสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน และบทบาทของทีมฉัน”
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันเข้าใจถึงช่องว่างที่เกิดขึ้นกับอนาคตในการทำงานของฉัน เมื่อเจ้านายไม่อยู่แล้ว และมันก็เป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องปรับสภาพให้ได้ ก่อนที่นโยบายของบริษัทจะเข้ามากำหนดทางเลือกให้กับฉันแทน 4 ปี กับเจ้านายสองคนที่ถูกไล่ออก ฉันจึงได้แนวคิด “จะเติบโตในการทำงานอย่างไร เมื่อเจ้านายไม่อยู่อีกแล้ว”
1.ถอยและก้าวต่อ
หัวหน้าคนใหม่ของฉันเพิ่มงานของเธอเป็นสองเท่าในเช้าวันหนึ่ง วันต่อมาฉันไปพบเธอในช่วงพักเที่ยง และถามเธอว่าฉันช่วยอะไรได้บ้างไหม เธอไล่ดูสิ่งที่เจ้านายคนก่อนของฉันทำงานค้างไว้ เราช่วยกันจัดลำดับความสำคัญ และฉันได้รับมอบหมายงานใหม่ ตอนนี้ฉันได้เพิ่มศักยภาพของตัวเองแล้ว และสิ่งเหล่านี้คุณต้องเลือกเองว่าจะทำหรือไม่
2.จัดระบบเครือข่ายของคุณ
ไม่ว่าจะถูกหรือผิด แต่ตอนนี้องค์กรกลายเป็นศัตรูไปแล้ว ความเกี่ยวข้องระหว่างฉันกับเจ้านายคนก่อน มันกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนคิดว่าฉันยังมีส่วนร่วมกับเจ้านายเสมอ ไม่ว่าจะในเรื่องดีหรือไม่ดี
ฉันเรียนรู้ว่า สิ่งที่ดีที่สุด คือ ใช้เครือข่ายส่วนตัวในการเดินหน้าต่อไป และฉันพบว่ามีคนอยู่ 4 ประเภท คือ คนที่เห็นใจเรา พวกชอบยุ่ง พวกหาผลประโยชน์ และผู้ให้การสนับสนุน
คนที่เห็นใจเรามักจะคอยช่วยเหลือเราบ้างแต่มักจะทำอะไรได้ไม่มาก พวกชอบยุ่งมักชอบเอาข่าวลือมาปะติดปะต่อกับเรื่องราวต่างๆ พวกหาผลประโยชน์ก็ตามชื่อ และสุดท้ายผู้ให้การสนับสนุน ฉันพบว่ากลุ่มผู้ให้การสนับสนุนมีความสำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับผู้นำองค์กร ซึ่งตอนนี้ฉันมีสถานะเหมือนลูกกำพร้าที่ไม่มีหัวหน้า สิ่งสำคัญตอนนี้คือคนที่สามารถยืนยันถึงความสามารถและงานของฉันได้ การเปิดความสัมพันธ์กับคนกลุ่มนี้ทำให้งานของฉันมีความมั่นคงมากขึ้น
3.พยายามดีกับทุกคน
มันไม่สำคัญว่าหัวหน้าของคุณจะเป็นคนที่คุณชอบ หรือ คนที่คุณไม่อยากทำงานด้วย เขาก็เป็นคนที่ไม่คิดว่าจะต้องตกงาน และเขาก็มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบนอกเหนือจากงานที่ทำ ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างยากขึ้นแล้ว เช่น การเลี้ยงดูพ่อแม่ จ่ายหนี้สิน หรือในกรณีเจ้านายของฉัน เขามีภรรยาและลูกต้องดูแล ซึ่งตัวของเขาเป็นแหล่งรายได้หลักของครอบครัว มันอาจจะไม่เหมาะกับทุกกรณีโดยเฉพาะ หากมีปัญหาเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่การติดต่อกับเจ้านายเก่าของคุณและช่วยเหลือเขาบ้างก็ไม่เสียหาย
เมื่อตอนเจ้านายของฉันออกจากงานไป ฉันไม่ได้คิดจะติดต่อกับเขาอีก ไม่นานหลังจากนั้น ฉันได้รับ Email จากเจ้านายเก่า ซึ่งตอนนี้ได้งานใหม่ในบริษัท Software และเขาต้องการให้ฉันช่วยสร้างทีม หลังจากพิจารณาทางเลือกทั้งหมด ฉันเลือกเจ้านายเก่าและงานที่ใหม่
4.มีความซื่อสัตย์
ตลอดระยะเวลาการทำงานฉันรู้สึกว่าฉันได้ทำงานที่ดี ร่วมกับทีมที่ดี แต่เจ้านายของฉันไม่คิดแบบนั้น เจ้านายของฉันไม่ชอบทิศทางของบริษัท เขาโทษระบบบริหารของ CEO ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานอะไร เจ้านายของฉันเป็นคนรับฉันเข้ามาทำงาน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันมีความซื่อสัตย์ต่อองค์กรน้อยลง เมื่อเกิดปัญหาจากการทำงานของเจ้านายฉัน ฉันถูกสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และฉันเลือกทำสิ่งที่ถูกต้อง ฉันพูดความจริง และหลังจากถูกถาม 2 ครั้ง เจ้านายของฉันก็ต้องลาออกไป
Source : work.qz.com