8 ข้อที่ควรทำเป็นประจำเพื่อเพิ่มความร่วมมือในการทำงาน
ความร่วมมือในการทำงานคือสิ่งชี้ขาดระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว หากทีมงานของคุณมีความร่วมมือในการทำงาน 32% นั่นหมายความว่าความสามารถในการทำงานของทีมคุณถึง 68% กำลังเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง หรืออาจจะแย่กว่านั้นคือ 68% นั้นอาจจะไม่ร่วมมือในการทำงานด้วยซ้ำ ดังนั้นหากคุณเป็นหัวหน้าทีม คุณคือส่วนสำคัญที่สุดในการสร้างความร่วมมือในการทำงานของทีม และนี่คือ 8 ข้อที่จะทำให้คุณสามารถสร้างความร่วมมือในการทำงานได้ง่ายขึ้น
1.สร้างความร่วมมือในการทำงาน
ในฐานะผู้นำของทีม มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ลูกน้องของคุณจะร่วมมือกับคุณในการทำงานได้ หากคุณไม่เริ่มการร่วมมือนั้นๆ เพราะคุณคือต้นแบบของพฤติกรรมของทีม ดังนั้นหากคุณไม่สร้างความร่วมมือในการทำงาน ทีมงานก็ไม่สามารถทำได้
2.ให้ลูกน้องเห็นคุณเสมอ
เป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกน้องจะอยากทำงานร่วมกับหัวหน้า แต่ไม่ใช่ทำงานให้หัวหน้า แต่มันจะเป็นเรื่องอยากมากที่จะสร้างบรรยากาศแบบนั้นหากพวกเขาไม่เห็นหัวหน้าเลย ดังนั้นอย่ามัวแต่ประชุมหรืออยู่แต่ในห้อง ออกมาจากห้องแล้วใช้เวลาพูดคุย ทำงาน และสนใจรอบข้างบ้าง
3.สร้างความกระตือรือร้น
ความกระตือรือร้นเป็นพฤติกรรมที่ส่งต่อได้ ดังนั้นยิ่งคุณกระตือรือร้นมาก ทีมของคุณก็จะกระตือรือร้นตาม แต่นั่นต้องเป็นความกระตือรือร้นที่จริงจัง เพราะไม่มีอะไรที่ทำลายความร่วมมือในการทำงานได้รวดเร็วเท่าความกระตือรือร้นแบบปลอมๆ ที่คนทั่วไปสามารถจับได้ง่ายๆ อย่าลืมว่าความกระตือรือร้นนั้นไม่ได้มาจากคำพูดเท่านั้น แต่ต้องมีการกระทำด้วย
4.พยายามพูดคุยกับคนในทีม
ยิ่งพูดคุยกับคนในทีมมากแค่ไหน การทำงานร่วมกันก็ยิ่งมากขึ้น คุณต้องสื่อสารให้ชัดเจนถึงเป้าหมาย ความสำคัญในบทบาทของคนในทีมแต่ละคน ทำให้พวกเขารู้ว่าอะไรสำคัญอะไรไม่สำคัญ การสื่อสารมีความสำคัญในการสร้างแรงผลักดันในการทำงานเป็นอย่างมาก และเมื่อทำเป็นขั้นตอนคุณจะสามารถใช้เพื่อทำให้การทำงานอยู่ในระบบได้เสมอ
5.อย่าลืมยกย่องคนในทีม
ตามทฤษฎีของ Maslow เรื่องความต้องการ การได้รับการยอมรับถือเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ มันช่วยสร้างความมั่นใจ และการเห็นคุณค่าของตัวเอง การให้การชื่นชมคนอื่นเมื่อทำสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่ราคาถูกมาก แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้นไม่ถูกแน่นอน
6.เข้าถึงให้ง่าย
มันยากมากที่จะสร้างการทำงานร่วมกับคนที่คุณไม่สามารถเข้าถึงได้ ลองคิดดูว่าหากคุณต้องทำงานร่วมกับเจ้านายที่ทุกครั้งที่เจอกันเขาดูยุ่งมาก และมีบรรยากาศที่ทำให้เรารู้สึกว่าอย่ามายุ่งกับฉันนะ ฉันยุ่งมาก ฉันไม่มีเวลา สิ่งเหล่านี้คือการสร้างช่องว่างระหว่างทีมและหัวหน้า
ผู้คนมักจะชอบเข้าหาเจ้านายที่พวกเขารู้จัก ชอบ ไว้ใจ และเข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นคุณควรเป็นเจ้านายที่ลูกน้องเข้าถึงง่าย และไว้วางใจ
7.พยายามทำตัวให้ว่าง
คนในทีมมักจะมีคำถาม ความคิดเห็นหรือคำแนะนำในการทำงาน การรับรู้เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก เพราะนอกจากจะทำให้คนในทีมรู้สึกว่ามีส่วนร่วมแล้ว ตัวคุณก็อาจได้เรียนรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์อีกด้วย สิ่งเหล่านี้ทำได้ไม่ยาก คุณอาจจะหาเวลาไปทานข้าวกับคนในทีม ใช้เวลาเดินในออฟฟิศพูดคุยกับทีม ทำให้คนในทีมกล้าเข้าหาคุณ กล้าที่จะพูดคุยปรึกษากับคุณ คุณอาจจะได้รับรู้ไอเดียหรือแนวคิดใหม่ๆ
8.ยิ้มให้มากขึ้น
คนที่มีความสุขมักจะเป็นคนที่น่าเข้าหา เมื่อคุณมีความสุขและยิ้มมากๆก็จะส่งผลอย่างมากต่อความรู้สึกของคนในทีมหรือองค์กร เมื่อคุณยิ้มให้พนักงานและพนักงานยิ้มตอบกลับมา ความรู้สึกเชิงบวกก็จะเกิดขึ้น การยิ้มช่วยลดความเครียด ทำให้รู้สึกดี และกระตุ้นความคิดเชิงบวก
การเป็นผู้นำนั้นมีผลอย่างมากต่อความรู้สึกของลูกน้อง ลองทำตาม 8 ข้อแนะนำข้างต้นเป็นประจำทุกวัน คุณจะได้รับความรู้สึกเชิงบวก และความร่วมมือในการทำงาน
Source: inc-asean