16-01-2020

MQDC รวมพลังกับ อบก. และอีอีซี – ดีที ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำเดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการเมืองระดับโลกแห่งแรก

บทความโดย

เดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการป่าในเมืองใหญ่บนพื้นที่กว่า 398 ไร่ บริเวณถนนบางนา พร้อมแล้วสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ภายใต้การร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. และบริษัทอีอีซี – ดีที กรีน พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระบบพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เดอะ ฟอเรสเทียส์ ถือเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1.25 แสนล้านบาท เดอะ ฟอเรสเทียส์ คือโครงการแรกของโลกที่นำธรรมชาติ มนุษย์ สัตว์และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มาอยู่ร่วมกันอย่างมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน โดยโครงการตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 40% ผ่านการใช้พลังงานหมุนเวียน ระบบพลังงานประสิทธิภาพสูง และระบบนิเวศที่สมบูรณ์ของผืนป่าภายในโครงการ

บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน (MoU) กับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. และบริษัทอีอีซี – ดีที กรีน พาวเวอร์ จำกัด ในการร่วมประเมินปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นเวลา 3 ปี เพื่อกำหนดทิศทางใหม่สำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย

นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ ประธานผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการ MQDC กล่าวว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยพัฒนาความรู้และแนวทางปฏิบัติเชิงลึกเพื่อต่อสู้กับสภาวะโลกร้อน

“เดอะ ฟอเรสเทียส์ คือโครงการที่มีเพื่อนบ้านเป็นโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงพยาบาล สำนักงาน และพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมถึงมีพื้นที่ป่าขนาดกว่า 30 ไร่ ที่ถูกพัฒนาภายในแนวคิด The Land of Everlasting Happiness” นายคีรินทร์ กล่าว

“เดอะ ฟอเรสเทียส์จึงถือเป็นโครงการที่เหมาะสมอย่างมากสำหรับการลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะเป็นโครงการที่มีสิ่งมีชีวิตทุกชนิดอาศัยอยู่อย่างแท้จริงทั้งมนุษย์และต้นไม้     อีกทั้งประเทศไทยต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่น่ากลัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งปัญหาความแห้งแล้งและอุทกภัย รวมถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้น สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนวัฎจักรที่เลวร้ายเพราะแสดงถึงความต้องการทางพลังงานที่เพิ่มขึ้นเพื่อระบายความร้อนในที่พักอาศัยหรืออาคารสถานที่ต่าง ๆ ดังนั้น MQDC และโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นส่วนร่วมในการมอบพื้นที่เพื่อทำการวิจัยและปฏิบัติการครั้งสำคัญในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในครั้งนี้” นายคีรินทร์ กล่าว

นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ อบก. กล่าวว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะสามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติแบบใหม่ให้กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

“ปัจจุบันปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากขึ้น อันเนื่องมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงขึ้น ทั้งนี้ประเทศไทยได้แสดงเจตจำนงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระหว่างร้อยละ 7-20% ภายในปี 2563 และลดก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 20-25% ภายในปี 2573 เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน”

“อบก. รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับทาง MQDC โดยเราส่งเสริมและสนับสนุนด้านวิชาการในการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้รายกิจกรรมและโครงการจากกิจกรรมลดหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจกภายใต้การดำเนินงานของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ตามกลไกของ อบก. อันได้แก่โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) และโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS)” นางประเสริฐสุข กล่าว

นายเกชา ธีระโกเมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอีอีซี – ดีที กรีน พาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่าการทำงานร่วมกันในครั้งนี้จะช่วยพัฒนาและประเมินแนวทางใหม่ที่สำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“พันธกิจในการทำงานของ MQDC คือ ‘For All Well-Being’ จึงทำให้โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์มีความมุ่งมั่นในการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ซึ่งในที่นี้หมายความรวมถึงทั้งมนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ แมลง และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดภายในโครงการ” นายเกชา กล่าว

“การได้ร่วมทำงานกับ MQDC ซึ่งดำเนินงานภายในหลักการ “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน” ทำให้อีอีซี – ดีทีได้มีโอกาสช่วยพัฒนาระบบพลังงานและระบบสาธารณูปโภคในแนวทางที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด   เช่น ระบบทำความเย็นรวมศูนย์ (district cooling system) และ อาคารสาธารณูปโภคส่วนกลาง (CUP) รวมถึง “หุบความเย็น” (cooling basin) ที่ใช้คุณลักษณะของการออกแบบภูมิสถาปัตย์เพื่อสร้างสภาวะภูมิอากาศที่เย็นสบาย จากความร่วมมือในการพัฒนาดังกล่าวนี้ทำให้เราในฐานะผู้รับผิดชอบในการวางผังระบบวิศวกรรม และเป็นผู้ประเมินการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก คาดการณ์ว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับโครงการโดยทั่วไป” นายเกชา กล่าว

นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าวว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนด้านการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในระดับประเทศต่อไป

“แรงบันดาลใจของ MQDC ในการพัฒนาโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ คือการสร้างเมืองแห่งความสุขที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบสิ่งแวดล้อมทั้งหมดให้เชื่อมกับธรรมชาติ ดังนั้นการร่วมมือกันในครั้งนี้เรามีความตั้งใจที่จะทำให้โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าร่วมการประเมินปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงได้รับการรับรองปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก”

“นอกจากนี้เราจะสนับสนุนโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ให้เป็นพื้นที่นำร่องในการสนับสนุนทางด้านวิชาการในการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการลดหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย” นายกิตติพันธุ์ กล่าว

พิธีการลงนามข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้จัดขึ้นที่ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) โดยมีตัวแทนจากทั้ง 3 องค์กรได้แก่นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ จาก MQDC นางประเสริฐสุข เพฑูรย์สิทธิชัย จาก อบก. และนายเกชา ธีระโกเมน จากบริษัทอีอีซี – ดีที กรีน พาวเวอร์ จำกัด ร่วมลงนาม