การปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำงาน – ก้าวสำคัญตลาดอาคารสำนักงานปี 64
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อการใช้พื้นที่สำนักงานอย่างไรนั้นยังคงไม่สามารถทราบได้อย่างชัดเจนท่ามกลางการคาดการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายในหลายแวดวงธุรกิจ ซีบีอาร์อี ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก เผยว่า บริษัทต่างๆ จะพิจารณาทบทวนบทบาทใหม่ของพื้นที่สำนักงานในฐานะที่เป็นสถานที่สำหรับการทำงานร่วมกัน และสร้างวัฒนธรรมขององค์กรโดยต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ การปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดจะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจในช่วงหลายปีต่อจากนี้
นายชาญวิชญ์ พสุวัต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาการออกแบบโครงการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย อธิบายว่า “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตลาดอาคารสำนักงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมุมมองของบริษัทต่างๆ ในเรื่องพื้นที่ทำงานมีความซับซ้อนมากขึ้น แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่า ในช่วงก่อนปี 2558 ความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่ “การขยายพื้นที่สำนักงาน” โดยใช้งบประมาณเป็นตัวกำหนด ขณะที่ช่วงปี 2558-2562 แนวโน้มได้เริ่มเปลี่ยนไปสู่ “การใช้งบประมาณให้คุ้มค่า” โดยลูกค้า 53% พิจารณาทบทวนว่าจะสามารถรองรับการเติบโตของธุรกิจและจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้นด้วยพื้นที่สำนักงานที่มีอยู่เดิมแทนการขยายพื้นที่ได้อย่างไร และตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา การควบคุมค่าใช้จ่ายและการลดความเสี่ยงคือปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเรื่องการเช่าพื้นที่สำนักงาน บริษัทหลายแห่งในเอเชียแปซิฟิกคาดการณ์ว่าภายในปี 2568 แนวโน้มการทำงานจะเปลี่ยนไป โดยมีการผสมผสานการทำงานนอกพื้นที่สำนักงานรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
ในปี 2563 แม้จะมีการตั้งคำถามต่อความจำเป็นของการมีพื้นที่สำนักงานจากการที่พนักงานมีประสบการณ์ในการทำงานนอกสำนักงานครั้งที่ใหญ่ที่สุดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เมื่อกลับมาสู่การทำงานตามปกติ ผู้เช่าพื้นที่สำนักงานก็ยังคงไม่ได้ละทิ้งแนวความคิดเรื่องการมีอยู่ของพื้นที่สำนักงาน หากแต่ต้องสร้างความมั่นใจว่าสามารถใช้พื้นที่สำนักงานอย่างมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้นไปอีก โดยต้องมีการกำหนดกลยุทธ์ในการใช้พื้นที่สำนักงานอย่างเหมาะสม
นางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ หัวหน้าแผนกพื้นที่สำนักงาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า “ในภาวะเศรษฐกิจเช่นปี 2563 ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพมหานครเกิดมีการควบรวมพื้นที่หรือลดขนาดพื้นที่สำนักงานสูงสุด 30% โดยเป็นพื้นที่สำนักงานของบางกลุ่มธุรกิจอย่างโฆษณา การแพทย์ ยานยนต์ และกฎหมาย ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและโลจิสติกส์กลับมีการขยายพื้นที่สำนักงานสูงสุดถึง 100% และสูงสุดถึง 200% สำหรับบริษัทด้านแพลตฟอร์มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจออนไลน์ในปีที่แล้ว”
ตลอดปี 2563 บริษัทส่วนใหญ่พิจารณาทบทวนแผนเรื่องพื้นที่สำนักงานของตนเองใหม่และชั่งน้ำหนักว่าจะเลือกต่ออายุสัญญาเช่าที่อาคารเดิมหรือย้ายที่ตั้งสำนักงาน
นายชาญวิชญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทีมกลยุทธ์การจัดพื้นที่สำนักงาน (Workplace Strategy) ของซีบีอาร์อีมีการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเป็นประจำทุกวันเพื่อให้ความช่วยเหลือเรื่องการกำหนดกลยุทธ์ในการใช้พื้นที่สำนักงาน ปัจจุบันบริษัทต่างๆ กำลังจัดลำดับความสำคัญเชิงธุรกิจของตนเองใหม่และมีแนวคิดในการปรับเปลี่ยนการใช้พื้นที่สำนักงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในแง่พื้นที่การเช่าและความเป็นอยู่ของบุคลากรในองค์กร โดยขึ้นอยู่กับลักษณะของแนวทางธุรกิจ การทำงาน และความต้องการใช้พื้นที่ของบริษัทเป็นหลัก”
“ฟังก์ชั่นของพื้นที่สำนักงานในอนาคตจะเปลี่ยนจากพื้นที่แบบดั้งเดิมไปสู่พื้นที่ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรและสังคมของพนักงาน การใช้สำนักงานกำลังเปลี่ยนไปสู่การมีสถานที่ทำงานแบบผสมผสานหรือสถานที่ทำงานแบบไฮบริดเนื่องจากบริษัทต่างวางแผนที่จะใช้พื้นที่สำนักงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจและบุคลากร สิ่งที่องค์กรจะหันไปให้ความสนใจในปี 2564 คือการทำให้พนักงานได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นในการใช้พื้นที่สำนักงาน ควบคู่ไปกับการสร้างความยืดหยุ่นให้กับพื้นที่สำนักงานที่มีอยู่ในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น ในปีนี้อาจมีแนวโน้มการใช้พื้นที่สำนักงานที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอีกที่นอกเหนือไปจากการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์พื้นที่ภายในสำนักงาน เพราะบริษัทต่างๆ ยังคงหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับอนาคต กลยุทธ์การจัดพื้นที่สำนักงานถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมากสำหรับองค์กรซึ่งไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ต้องอาศัยการศึกษาเชิงลึกและการวิเคราะห์ธุรกิจ โครงสร้างองค์กร และวัฒนธรรมองค์กรอย่างละเอียด” นายชาญวิชญ์ กล่าวสรุป