Voice TV ประกาศปลดพนักงาน 127 คน
- Voice TV ประกาศปลดคนออก 127 คนอย่างเป็นทางการลดขนาดองค์กรมุ่งสู่ออนไลน์
วันนี้สำหรับวงการทีวีดิจิทัลนับว่ามีหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น นั่นคือ สถานีโทรทัศน์ Voice TV ช่อง 21 ออกแถลงการณ์เรื่อง การปรับโครงสร้างองค์กร ปรับผังรายการทีวี และพัฒนาการนำเสนอผ่านทุกช่องทางออนไลน์ โดยกล่าวถึงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดข้อจำกัดมาตลอด 4 ปี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล และ การเปลี่ยนแปลงจากโลกออนไลน์ ที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้
ตามที่คำแถลงการณ์ออกมานั้น ชัดเจนว่า Voice TV จะมุ่งสู่ออนไลน์มากขึ้น ทั้งตัวเว็บไซต์ Application ลดจำนวนรายการลง ยกเลิกรายการข่าวประจำวันในช่วงเที่ยงและค่ำ พนักงานจำนวนหนึ่งเข้าโครงการสมัครใจ ขณะที่อีกจำนวนหนึ่งถูกให้ออก โดยได้รับการจ่ายชดเชยตามกฎหมายแรงงงานกำหนดไว้
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ Voice TV ต้องบอกว่าไม่ใช่รายแรก แต่เป็นผลต่อเนื่องของอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล หลายค่ายประกาศทั้งขายช่อง เช่นกรณีของ เครือเนชั่น ประกาศขายช่อง NOW รวมทั้งม.เนชั่นน และ บริษํทขนส่ง มูลค่า 1.4 พันล้านบาท ช่อง Amarin ขายช่องทีวีให้กับกลุ่มสิริวัฒนภักดี แกรมมี่ขายหุ้นราวครึ่งหนึ่งให้กลุ่มปราสาททองโอสถ
การลดคนเพื่อลดขนาดองค์กร หลายแห่งก็ทำกันเช่น ไทยรัฐทีวี ช่องไทยพีบีเอส เป็นต้น จนมาล่าสุดเป็นช่อง Voice TV ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าการทำทีวีดิจิทัลที่มีคู่แข่งอีก 21 ช่องไม่นับรวมสื่อออนไลน์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่ง่ายเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นสมรภูมิเลือดเดือดเป็นอย่างมากสำหรับคนทำทีวียุคนี้ ที่แม้จะเนื้อหารายการดีเท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้าคนไม่กดมาดูช่อง ก็ต้องบอกว่า “จบ”
สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปคือ การกดดันให้รัฐบาลออกมาใช้มาตรา 44 เพื่อให้กสทช. รับคืนช่องทีวีดิจิทัลได้โดยไม่ต้องเสีบค่าใบอนุญาตปีละหลายร้อยล้านบาทอีกต่อไป แน่นอนว่าหลายคนคงมองว่าทำเช่นนี้ประเทศเสียหาย แต่เนื่องจากธุรกิจไปไม่รอดในอุตสาหกรรมนี้ เมื่อไปต่อไม่ได้ จึงเป็นหนทางเดียวที่คนในอุตสาหกรรมนี้คาดหวังเป็นอย่างมากว่าจะเกิดขึ้นเพื่อไม่ให้ธุรกิจตนเองเจ็บตัวมากไปกว่านี้
ปีหน้าอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล คงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกหลายๆครั้ง และเมื่อใดก็ตามมีการเปิดช่องให้สามารถคืนช่องได้ การปลดพนักงานออกเนื่องจากคืนช่องให้กสทช.แล้วคงจะมีอีกเป็นจำนวนมากและหลังจากนั้น การต่อสู้ในเวทีข่าวบนแพลตฟอร์มอื่น น่าจะดุเดือดยิ่งขึ้นไปอีก ต้องรอชมกันต่อไปสำหรับยุคดิจิทัล
Source: Voice TV