สเปซเซส (Spaces) ผู้บุกเบิกออฟฟิศพร้อมใช้งานแบบครบวงจรสุดสร้างสรรค์ ประกาศเปิดสาขาที่สี่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ อาคารพหลโยธิน 19 บนถนนพหลโยธิน
ภายใต้การดูแลของ IWG ผู้บริหารแบรนด์ธุรกิจการให้บริการพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ศูนย์ใหม่ภายใต้แบรนด์ สเปซเซส ในอาคารพหลโยธิน 19 มีพื้นที่กว้างถึง 2,900 ตารางเมตร โดยเข้ามาตอบรับความต้องการของกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ นักลงทุน บริษัทสตาร์ทอัพ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และธุรกิจอื่นๆ ในตอนเหนือของกรุงเทพฯ
นายลาร์ส วิททิก ผู้จัดการประจำประเทศ ของ IWG ในประเทศไทย ฟิลลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา และเกาหลีใต้ กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจที่ครอบครัวสเปซเซสของเราได้เปิดศูนย์แห่งใหม่ในตอนเหนือของกรุงเทพฯ พหลโยธิน–ลาดพร้าว เป็นทำเลที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยผู้คน จึงเหมาะแก่การเป็นสถานที่ให้เราได้ขยายแบรนด์สเปซเซสในประเทศไทย นอกจากนี้ยังรอบล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานมากมาย ห้างสรรพสินค้าและพื้นที่ส่วนกลาง ที่จะมาเติมเต็มพร้อมสร้างแรงบันดาลใจและประสิทธิภาพในการทำงานให้แก่สมาชิกของเรา”
สเปซเซส พหลโยธิน 19 นี้ ประกอบไปด้วยโต๊ะทำงานโคเวิร์กกิ้งสเปซ 64 ที่นั่ง ออฟฟิศแบบส่วนตัว 98 ห้อง โต๊ะส่วนตัว 6 ที่นั่ง และ ห้องประชุมสำหรับการเสนองานหรือจัดสัมมนาฝึกอบรบต่าง ๆ อีก 4 ห้อง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Business Club พื้นที่แห่งการพบปะสำหรับสมาชิก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสในการร่วมคิดค้น แบ่งปันไอเดียและขยายเครือข่ายทางธุรกิจ อีกทั้งทำเลนี้ยังสะดวกต่อการเดินทางได้จากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น สถานีรถไฟฟ้าห้าแยกลาดพร้าวที่พึ่งเปิดให้บริการใหม่ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพหลโยธิน หรือรถยนต์ส่วนตัว เป็นต้น โดยตัวอาคารยังมีที่จอดรถชั้นใต้ดินที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวเพื่อรองรับแก่สมาชิกทุกท่าน
สมาชิกจะได้รับประโยชน์จากการออกแบบพื้นที่ทำงานที่เหมาะแก่การใช้งานตามหลักสรีรศาสตร์อย่างพิถีพิถันของสเปซเซส รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นกันเอง พร้อมโครงสร้างที่เปิดโล่ง โปร่งสบาย หน้าต่างและกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งแก่การสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ซึ่งสาขาใหม่นี้ เน้นการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ในสไตล์ยุโรป รวมไปถึงบาริสต้าผู้ที่จะมาชงกาแฟสูตรพิเศษจากการร่วมมือกันกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง คาซ่า ลาแปง (Casa Lapin) อีกด้วย
“การสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมในการทำงานตามอุดมคติ และ บรรยากาศที่ช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการสรรค์สร้างเปรียบเสมือนดีเอ็นเอที่ฝังแน่นอยู่ในแบรนด์ของเรา สำหรับสเปซเซส เราภูมิใจที่ได้สร้างกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มีความคิดเหมือน ๆ กัน และมุ่งหน้าไปยังจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือการทำงานอย่างชาญฉลาด และสนุกไปกับมัน โดยยังคงรักษาสมดุลของชีวิตการทำงานไว้เป็นหนึ่ง ในขณะเดียวกัน สเปซเซสสาขาใหม่ที่ พหลโยธิน 19 แห่งนี้จะช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นของแบรนด์ IWG ในประเทศไทย เพราะเราได้เห็นถึงการเติบโตและความต้องการของพื้นที่ทำงานที่มอบความยืดหยุ่นภายในประเทศนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มมิลเลนเนียลและเจนเนอเรชั่นซี ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงานอย่างเต็มตัว” นายลาร์ส กล่าวเพิ่มเติม
สเปซเซส ได้มอบสิ่งสำคัญในการทำงานให้แก่คนรุ่นใหม่ ด้วยการมอบสถานที่พบปะและสถานที่ทำงานสุดครีเอทีฟ นอกจากนี้ด้วยสัญญาที่มีความยืดหยุ่นจึงทำให้พวกเขาสามารถเพิ่มหรือลดพื้นที่ทำงานได้ตามต้องการโดยไม่ต้องทำสัญญาเป็นระยะเวลาหลาย ๆ ปี ในขณะเดียวกันบริษัทข้ามชาติที่มองหาสถานที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่น ก็สามารถรับประโยชน์จากเครือข่ายที่ครอบคลุม และค่าใช้จ่ายการตั้งออฟฟิศที่ลดลง แต่ยังคงประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้อย่างดีเยี่ยม
ในฐานะศูนย์กลางการจัดงานและกิจกรรมต่าง ๆ สมาชิกสามารถที่จะเข้าร่วมกิจกรรมส่วนรวมที่สเปซเซสนำเสนอได้ เช่น มื้ออาหารกลางวันพิเศษร่วมกัน กิจกรรมเวิร์กช็อป และคลาสออกกำลังกายที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์สเปซเซส นอกจากนี้ สมาชิกยังสามารถเข้าถึงพื้นที่การทำงานร่วมกันของ สเปซเซส ในกรุงเทพฯ ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ ซัมเมอร์ฮิลล์ (สถานีรถไฟฟ้าพระโขนง) จัสตุรัส จามจุรี (รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสามย่าน) หรือเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ (สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี) และรวมไปถึงกว่า 250 สาขาทั่วโลก เพื่อสร้างเครือข่ายคอนเนคชั่นใหม่ ๆ และเสาะหาไอเดียเพื่อการต่อยอดธุรกิจ
“เราอยู่ในจุดสำคัญในการปฏิวัติพื้นที่ทำงาน ธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ทันต่อโลกในปัจจุบัน โดยการมอบตัวเลือกการทำงานที่เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถทำงานได้จากระยะไกล และมีตารางงานที่ยืดหยุ่น เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีประสิทธิภาพ บอกลาการทำงานแบบเดิม ๆ กับการตอกบัตรเข้า–ออก ตั้งแต่ 9.00 น. – 17.00 น. และการเดินทางหลายชั่วโมงเพื่อมายังออฟฟิศ อนาคตของการทำงานมุ่งไปยังคอนเซ็ปต์การทำงานอย่างยืดหยุ่น และอยู่ร่วมกัน IWG ในฐานะผู้นำระดับโลกและผู้สนับสนุนการทำงานที่ให้ความยืดหยุ่น เราเชื่อว่าการทำงานในอนาคตจะพลิกโฉมรูปแบบการทำงานของเราให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มการทำงานทั่วโลก ด้วยโซลูชั่นการทำงานสร้างสรรค์ที่ปลดล็อคชีวิตการทำงานและช่วยให้ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก มีความสุขไปกับการทำงานในทุก ๆ วัน” นายลาร์ส กล่าวสรุป