Softbank งานเข้า! หลังเจพีมอร์แกนและฟอร์ดยกเลิกแผนร่วมลงทุนกับซาอุฯ
- เจพีมอร์แกนและฟอร์ดยกเลิกการเข้าร่วมประชุมการลงทุนกับซาอุที่จะประชุมกันในเดือนตุลาคมนี้หลังจากข่าวการหายตัวไปของนักข่าววอชิงตันโพสต์ เมื่อ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา
- ความกังวลเรื่องการหายตัวไปของนักข่าววอชิงตันโพสต์ส่งผลต่อ Vision Fund ของ Softbank ที่มีมูลค่าถึง 1 แสนล้านเหรียญและอาจส่งผลถึงบริษัทไฮเทคหลายบริษัทที่กองทุนนี้ไปลงทุนไว้อาทิ Uber, WeWork, GM Cruise
Jamie Dimon ซีอีโอของเจพีมอร์แกน และ นาย Bill Ford ซีอีโอของฟอร์ดได้ยกเลิกการเข้าร่วมการประชุมแผนลงทุนกับทางซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ใน Vision Fund ของ Softbank ซึ่งมีมูลค่าราว 1 แสนล้านเหรียญ
การประกาศยกเลิกเข้าร่วมการประชุมด้านการลงทุนในครั้งนี้มาจากข่าวการหายตัวไปของนักข่าววอชิงตันโพสต์ Jamal Khashoggi ได้วิจารณ์รัฐบาลซาอุดิอาระเบียอย่างดุเดือดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ไมาหายตัวไปหลังจากเข้าไปในสถานกงศุลซาอุฯในกรุงอิตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลต่อการหายตัวไปของนักข่าวในครั้งนี้อย่างมาก
โดยเฉพาะ Softbank ซึ่งได้รับผลกระทบดังกล่าวทันทีโดยราคาหุ้นของลดลงถึง 8% ต่ำสุดในรอบ 3 เดือนก่อนจะปิดกลับมาที่ 7.2% โดยหุ้นของSoftbank ลงมาเกือบ 10%แล้วในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ในการลงทุนของ Softbank ซึ่งร่วมกับทางซาอุในฐานะนักลงทุนรายใหญ่ในกองทุนเพื่อการลงทุน Vision Fund มูลค่ากว่า 1 แสนล้านเหรียญเพื่อลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพไฮเทคชั้นนำของโลกตั้งแต่ Uber, WeWork, GM Cruise กำลังได้รับความกังวลเป็นอย่างมากในเรื่องนี้
การที่เจพีมอร์แกนและฟอร์ดยกเลิกเข้าร่วมประชุมที่กรุงริยาดในครั้งนี้ อาจเป็นแรงกดดันไปยังสถาบันการเงินรายอื่นๆอาทิ Goldman Sachs Group Inc , Mastercard Inc และ Bank of America Corp อันจะนำไปสู๋การพิจารณาแผนการลงทุนใหม่ ขณะที่ ซิตี้กรุ๊ปอิงค์ ละ Credit Suisse Group AG ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการร่วมแผนดังกล่าว
ขณะที่ทางประธานาธิบดีทรัมพ์ได้ขู่ไปยังรัฐบาลซาอุฯว่า “จะมีมาตรการลงโทษ” ถ้าปรากฎหลักฐานว่าKhashoggi ถูกสังหายภายในสถานกงศุลและอาจจะรวมถึงเรื่องการขายอาวุธให้กับทางรัฐบาลซาอุฯอีกด้วย