สยาม วาลิดัส แคปปิตอล (Siam Validus Capital) ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ให้บริการระบบคราวด์ฟันดิงในประเทศไทย
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติใบอนุญาตการเป็นผู้ให้บริการระบบคราวด์ฟันดิงในประเทศไทย ให้กับ บริษัท สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บริษัทฟินเทคจากต่างประเทศได้รับใบอนุญาตดังกล่าว นับตั้งแต่การประกาศกฎเกณฑ์การให้บริการระบบคราวด์ฟันดิงใน พ.ศ. 2562
- บริษัท สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จำกัด นับเป็นธุรกิจคราวด์ฟันดิงประเทศที่ 4 ในอาเซียน ของกลุ่มบริษัท Validus ตอกย้ำพันธกิจในการเพิ่มโอกาสทางการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับธุรกิจ SMEs ทั่วภูมิภาคอาเซียน
- นับตั้งแต่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2559 Validus โดยบริษัทลูกและบริษัทร่วมทุนในประเทศสิงคโปร์ (Validus), เวียดนาม (Validus Vietnam) และอินโดนิเซีย (Batumbu) ได้ช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับเงินกู้ผ่านแพลทฟอร์มคราวด์ฟันดิงไปแล้วกว่า 700 ล้านเหรียญสิงคโปร์
บริษัท สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จำกัด ผู้ให้บริการแพลทฟอร์มคราวด์ฟันดิง สำหรับธุรกิจ SMEs เป็นบริษัทจากต่างชาติรายแรกที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ในให้บริการระบบคราวด์ฟันดิง ในประเทศไทย สำหรับการระดมทุนในรูปแบบหุ้นกู้ เพื่อธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศไทย
ภายใต้ใบอนุญาตนี้ บริษัท สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Validus กลุ่มบริษัทฟินเทคชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน และบริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจจัดจำหน่ายในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน จะให้การสนับสนุนธุรกิจ SMEs ในการระดมทุนผ่านรูปแบบคราวด์ฟันดิงเพื่อขยายธุรกิจและเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและการเติบโตของธุรกิจควบคู่กับเศรษฐกิจของประเทศไทย
ใบอนุญาตประกอบกิจการนี้ เป็นไปตามนโยบายและกฎข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สอดคล้องกับแนวทางของ ก.ล.ต. ในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ SMEs โดย มร. วิคัส นาฮาทา ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มบริษัท Validus และกรรมการบริหาร กล่าวว่า “ใบอนุญาตนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญของเรา ในการขับเคลื่อนอนาคตทางการเงินให้กับธุรกิจ SMEs ในประเทศไทย ขอขอบคุณ ก.ล.ต. ที่ช่วยสนับสนุน ทำให้เราได้มีโอกาสนำความรู้ความชำนาญ รวมถึงกรอบการทำงานที่เราใช้ในระดับภูมิภาคอาเซียน มาปรับใช้กับการดำเนินงานในประเทศไทย”
ธุรกิจ SMEs เป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยคิดเป็นร้อยละ 95 ของธุรกิจทั้งหมด และยังมีอัตราการจ้างงานคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ SMEs มีความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพียง 1,289 พันล้านบาท หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เท่านั้น
นางวรีมน นิยมไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่าธุรกิจ SMEs ในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และมีปัญหาการขาดสภาพคล่อง
“การเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs เป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญที่จะส่งผลกับทั้งการเติบโตของธุรกิจของ SMEs เอง รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศ เราจึงร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจของเรา เพื่อให้การสนับสนุนคู่ค้าขององค์กร โดย สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จะใช้ความสามารถด้านการบริหารข้อมูลและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เรามั่นใจว่าทั้งหมดนี้จะทำให้เราเข้าใจถึงความต้องการด้านการเงินและสภาพคล่องของผู้ประกอบการ SMEs และให้การสนับสนุนได้ตรงจุดอย่างแน่นอน”
นางสาวอิสสรีย์ โรจนสุกาญจน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาองค์กร บริษัท สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า “นวัตกรรมทางการเงิน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการ SMEs ไทยในเวลานี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาวิกฤตที่เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน”
สยาม วาลิดัส แคปปิตอล จะนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์และระบบคะแนนความน่าเชื่อถือ (Credit Scoring) มาปรับใช้ และยังออกแบบกลไกเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทยด้วย โดยกลุ่มบริษัท Validus ได้รับรางวัลสูงสุดในสาขา Singapore Financial Institution จากงาน Monetary Authority of Singapore Fintech Awards 2020 ซึ่งจัดโดย Monetary Authority of Singapore (MAS)
นับตั้งแต่เปิดตัวใน พ.ศ. 2558 กลุ่มบริษัท Validus ประสบความสำเร็จในการช่วยผู้ประกอบการ SMEs ให้ได้รับเงินกู้ด้วยระบบคราวด์ฟันดิง ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 700 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ในประเทศสิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยกลุ่มบริษัท Validus มีผู้ถือหุ้นเป็น Venture Capital ชั้นนำ อาทิ AddVentures by SCG, FMO, Vertex Ventures Southeast Asia and India และ Vertex Growth Fund และมีการระดมทุนไปแล้วประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์