08-11-2018

จีนประกาศแผนปฏิรูปรัฐวิสาหกิจจีน พร้อมดึงทุนเอกชนทั้งในและต่างประเทศเข้าถือหุ้นร่วม

บทความโดย
  • นาย Xiao Yaqing หัวหน้าของหน่วยงานควบคุมทรัพย์สินของของรัฐ ออกมากล่าวว่า จีนยินดีต้อนรับการเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม สำหรับการร่วมถือครองกิจการจากทุนต่างชาติ
  • ผลักดันให้มีการปฏิรูปรูปแบบการถือครองร่วมในภาคธุรกิจ เป้าหมายเพื่อสร้างให้เกิดการแข่งขันในระดับองค์กรธุรกิจมากยิ่งขึ้น

ภาพจาก Shutterstock

รัฐบาลจีน ได้มอบความหวังให้กับนักลงทุนจากทั่วโลก หลังจากคำปราศรัยของประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาถึงการให้คำมั่นว่าจะผลักดันเศรษฐกิจแบบโลกภาวัตน์ และเชิญชวนให้บริษัทจากทั่วโลกเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูป สำหรับการผูกขาดของรัฐบาลจีนในการร่วมถือครองกิจการในรัฐวิสาหกิจจีน (SOEs)

นาย Xiao Yaqing หัวหน้าของหน่วยงานควบคุมทรัพย์สินของรัฐ และคณะกรรมการบริหารส่วนกลางของจีน (Sasac) ได้กล่าวว่า จีนให้การต้อนรับบรรดานักธุรกิจต่างชาติในการเข้ามาร่วมถือหุ้นในกิจการรัฐวิสาหิจกิจในภาคอุตสาหกรรมหนักของจีน ทั้งนี้มีเป้าหมายก็เพื่อให้เกิดการแข่งขันในระดับองค์กรธุรกิจยิ่งขึ้น

“บริษัทในประเทศและต่างประเทศ จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมสำหรับการปฏิรูปครั้งสำคัญนี้” นาย Xiao Yaqing กล่าวในงานแสดงสินค้า EXPO นานาชาติที่จัดขึ้น ณ มหานครเซี่ยงไฮ้ “ซึ่งแน่นอนว่า บริษัททั้งหมดจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการแข่งขันในองค์กรธุรกิจเพื่อให้เกิดการปฏิรูปที่แท้จริงเพื่อสร้างการเติบโตของรัฐวิสาหกิจเหล่านี้”

สำหรับสุนทรพจน์ของสีจิ้นผิงในงานดังกล่าว ยังครอบคลุมไปถึงการเปิดเสรีทางการค้าของจีนสู่โลก และยังวิจารณ์ต่อท่าทีของสหรัฐอเมริกาในเรื่องสงครามการค้าครั้งนี้ นับว่าเป็นการปะทะกันครั้งใหญ่ระหว่างจีนและสหรัฐ ที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่ใหญ่สุดของโลก นอกจากนี้สีจิ้นผิงยังประกาศต่อต้านลัทธิคุ้มครองทางการค้าและลัทธิเอกภาคนิยมที่ผูกขาดโดยสหรัฐอเมริกาด้วย

ที่ผ่านมา ทางด้านรัฐบาลจีนที่กรุงปักกิ่ง ได้ควบคุมสิทธิการถือครองในรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการผลิตของจีน เนื่องจากรัฐวิสาหกิจจีนเหล่านี้ถือเป็นกระดูกสันหลังทางเศรษฐกิจของจีน ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม โทรคมนาคม เหมืองแร่ และน้ำมัน ซึ่งนั่นทำให้รัฐบาลจีนเป็นผู้ผูกขาดในเกมทางการเงินและสร้างผลกำไรอย่างมหาศาล

แต่นับตั้งแต่ปี 2014 ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนก็ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายที่เคยผูกขาด อนุญาตให้ภาคเอกชนเข้าถือหุ่นร่วมในรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ โดยเฉพาะการเปิดทางให้กับบริษัทข้ามชาติเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาจะยังมีการควบคุมสัดส่วนอยู่ก็ตาม

รัฐบาลจีนยังได้ประกาศจุดยืนและนโยบายที่ให้ความสำคัญกับโลกาภิวัฒน์ว่าเป็นกระแสที่ไม่อาจจะถอยกลับไปได้อีก รัฐวิสาหกิจจีนที่ผูกขาดอยู่จะต้องกล้าที่ผนวกตัวเองเพื่อให้องค์กรตนเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานในระดับโลกด้วย

แน่นอนว่า จนถึงเวลานี้ รัฐวิสาหกิจจีน (SOEs) เสมือนเป็นอุปสรรคและสิ่งที่สร้างความกังวลใจให้กับนักลงทุนจากต่างชาติที่จะเข้ามาในจีน

“แต่สีจิ้นผิงก็ได้ออกมาให้คำมั่นถึงการเปิดตลาดจีนและการเป็นส่วนหนึ่งในตลาดโลก รวมถึงการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจจีน (SOEs)” นาย Ding Haifeng ที่ปรึกษาทางการเงินของเซี่ยงไฮ้ได้วิเคราะห์ไว้ “ซึ่งจากที่กล่าวมาแล้ว เป้าหมายของกระบวนการดังกล่าว จะต้องสัมฤทธิ์ผลเพื่อสอดคล้องกับเป้าหมายที่เริ่มด้วย Made in china  2025”

ตามสโลแกนของจีนยุคใหม่ที่ว่า Made in China 2025 นั่นคือแผนกลยุทธ์อันทะเยอทะยานในการนำจีนให้ขึ้นสู่การเป็นชาติมหาอำนาจทางด้านการผลิต อุตสาหกรรม รวมถึงการเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หุ่นยนต์ และยานยนต์พลังงานทางเลือก

นักวิเคราะห์มองว่า มีโอกาสอย่างมากสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกจะร่วมพัฒนากับรัฐวิสาหกิจจีนอย่างเช่น FAW Group ซึ่งเป็นผํู้ผลิตรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดของจีน

สำหรับในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา China Unicon มีรายได้เพิ่มกว่า 11.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งล้วนมาจากการลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศจีนเอง ไม่ว่าจะเป็น Baidu JD.com และ China Life Insurance ซึ่งนี่อาจถือได้ว่าเป็นการดีลครั้งสำคัญอย่างเป็นทางการที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจจีนให้กลายเป็นองค์กรแบบผสมที่ลดบทบาทรัฐลงไป

Source: SCMP