ก.ล.ต.สหรัฐอนมัติจัดตั้งตลาดทุนแห่งใหม่สำหรับบริษัทเทคโนโลยีในซิลิคอนวัลเลย์
สหรัฐใกล้จะมีตลาดหุ้นแห่งใหม่แล้วหลังจาก Long-Term Stock Exchange (LTSE) ทำการยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (ก.ล.ต.สหรัฐ) หรือ Securities and Exchange Commission ภายใต้ชื่อตลาดว่า Silicon Valley โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาค 62 ที่ผ่านมาทางก.ล.ต.สหรัฐฯได้อนุมัติตามคำขอนั้น นั่นจะทำให้สหรัฐมีตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติแห่งใหม่ คู่กับ NYSE, NASDAQ เป็นต้น
บริษัท Long-Term Stock Exchange (LTSE) บริหารโดย Eric Ries ได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า “พวกเรากำลังสร้างตลาดที่บริษัทควรจะได้รับผลตอบแทนจากการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ลงทุนในการจ้างงาน และสร้างการเติบโตให้เกิดขึ้นในอนาคต” หลังจากนี้บริษัทจะดำเนินการตามรายการต่างๆพร้อมทั้งดำเนินการเพื่อให้สามารถที่จะเป็นสถานที่สำหรับซื้อขายหลักทรัพย์
Eric Ries เป็นนักธุรกิจจากซานฟรานซิสโกเป็นผู้เขียนหนังสือ “The Lean Startup” (มีแปลเป็นภาษาไทยแล้ว ชื่อหนังสือว่า : สร้างธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ต้องเริ่มตอนที่ไม่พร้อม : The Lean Startup) โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่นี้จะมีลักษณะเฉพาะ และอาจกลายเป็นข้อถกเถียงในระยะต่อจากนี้ ด้วยข้อเสนอว่า สิทธิในการลงคะแนนเสียงในระยะยาว บนแนวคิดคือ ผู้ถือหุ้นจะได้รับอำนาจในการลงคะแนนเสียงที่มากขึ้นเมื่อพวกเขาเป็นเจ้าของในหุ้นนั้นยาวนานมากขึ้น โดยทางโฆษกของ LTSE Steve Goldstein กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่นี้จะเน้นถึงมาตรฐานการกำกับดูแลเช่นความยั่งยืนในผลตอบแทนของผู้บริหารและเรื่องความหลากหลาย
ขั้นตอนต่อไปของตลาดฯ คือการส่งมาตรฐานการจดทะเบียนต่อ ก.ล.ต.สหรัฐฯ โดยระหว่างนี้เป็นข่วงจัดทำข้อกำหนด กฎเกณฑ์ต่างๆและคาดว่าจะสามารถเริ่มรับลูกค้าเข้าสู่ตลาดฯได้ในสิ้นปีนี้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ที่ดำเนินการโดย LTSE นี้จะเป็นตลาดทุนลำดับที่ 14 ของสหรัฐมีที่ตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ในการซื้อขายหุ้นในสหรัฐถูกควบคุมด้วยตลาดหลักๆคือ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก Nasdaq และ Cboe ซึ่งกินส่วนแบ่งกว่า 60% ของตลาดทุนทั้งหมดของสหรัฐฯ
ทั้งนี้บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฐานของธุรกิจอยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯได้ให้ความสนใจในการจัดตั้งตลาดทุนแห่งใหม่นี้จากที่ผ่านมาตลาดทุนถูกครอบงำโดยคนของวาณิชย์ธนกิจในย่านวอลล์สตรีท รวมทั้งแรงกดดันเรื่องความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น
LTSE นั้นได้รับทุนสนับสนุนจากนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดังและเป็นเจ้าของ Vneture Capital อย่าง Marc Andreessen และ Peter Thiel
Source: QZ