แบงก์สวิสจับมือสตาร์ทอัพลุยคริปโต
ธนาคาร Julius Baer วางแผนให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าของธนาคารผ่านการจับมือเป็นหุ้นส่วนกับ SEBA Crypto สตาร์ทอัพสัญชาติสวิส การจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของบรรดายักษ์ใหญ่ด้านธนาคารส่วนบุคคล (Private Banking) สัญชาติสวิสในตลาดสกุลเงินคริปโต
การเป็นหุ้นส่วนกันครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากธนาคาร Falcon Private Bank โดดเข้าสู่ตลาดคริปโตไปก่อนหน้านี้ จะช่วยให้ลูกค้าของ Julius Baer สามารถจัดเก็บ ซื้อขาย และลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้คล่องตัวยิ่งขึ้น แถลงการณ์ของทั้ง 2 บริษัทระบุ
วงการธนาคารต่างเห็นโอกาสในเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของตลาดสกุลเงินคริปโต อย่างไรก็ตามอุปสรรคในด้านการถูกตรวจสอบอบ่างเข้มงวดจากหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศต่างๆและความผันผวนของค่าเงินคริปโตที่ยังสูงอยู่มากทำให้ธนาคารใหญ่ๆไม่รีบร้อนที่จะทุ่มเข้ามาในตลาดนี้อย่างเต็มตัว
ปัจจุบันธนาคาร Falcon ธนาคารส่วนบุคคลสัญชาติสวิสอีกรายที่โดดเข้าสู่ตลาดคริปโตก่อนหน้านี้ ได้ให้บริการด้านการลงมุนในบิทคอยน์ อีเธอร์ และไลท์คอยน์ กับลูกค้าส่วนบุคคลและลูกค้านักลงทุนสถาบัน ขณะเดียวกันก็เริ่มขยายช่องทางด้านการลงทุนในตลาดคริปโตกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่จับมือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ Bitcoin Suisse ในปี 2017
ขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวจาก JPMorgan Chase ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯที่ประกาศว่า ทางธนาคารเตรียมที่จะออกสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองในเร็วๆนี้ด้วยเช่นกัน
“เราเชื่อว่า สินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นกลุ่มสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่จะได้รับการยอมรับในวงกว้างและเป็นทางเลือกในการลงทุนในอนาคตข้างหน้าอย่างแน่นอน” นาย Peter Gerlach หัวหน้าฝ่ายตลาดการเงินของธนาคาร Julius Baer กล่าวในแถลงการณ์
ปัจจุบัน SEBA กำลังยื่นเรื่องเพื่อขอใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิสเพื่อจัดตั้งธนาคารที่ให้บริการด้านสกุลเงินคริปโตและขยายการให้บริการธนาคารพาณิชย์ในรูปแบบปกติไปยังกลุ่มบริษัทในอุตสาหกรรมใหม่ๆด้วย
ล่าสุด SEBA ประสบความสำเร็จในการระดมทุนมูลค่า 100 ล้านฟรังก์สวิสในการระดมทุนรอบเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา และวางแผนที่จะออกสกุลเงินคริปโตของตัวเองผ่านกระบวนการ ICO ในไตรมาส 3 ปี 2019 ทั้งนี้ SEBA วางแผนที่จะนำสกุลเงินคริปโตของตัวเองเข้าสู่ตลาดในไตรมาส 2 ของปีนี้
การจับมือกันของ SEBA กับธนาคาร Julius Baer ซึ่งได้ลงทุนถือหุ้นส่วนน้อยใน SEBA ตั้งแต่ปีที่แล้วด้วย จะเริ่มมีผลจริงในทางกฎหมายเมื่อ SEBA ได้รับอนุมัติใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารและนายหน้าค้าหลักทรัพย์แล้ว
ก่อนการจับมือกันในครั้งนี้ ทั้ง 2 บริษัทไม่สามารถระบุเป็นการเฉพาะได้ว่า จะมีการนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทใดแก่ลูกค้าของ Julius Baer ได้ ทางโฆษกของ Julius Baer ระบุ
ที่มา: Reuters