JFIN Coin เปิดเทรดตลาดคริปโตวันแรก เปิดแมทช์กันที่ 6.45 บาท พร้อมพัฒนาแพลทฟอร์มปล่อยกู้แบบไร้ตัวกลาง

• บริษัท เจ เวนเจอร์ จำกัด บริษัทฟินเทคด้านการเงินและบริษัทลูกของบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศเปิดให้มีการเทรดเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซีขึ้น JFIN Coin ในตลาดเป็นครั้งแรกบนกระดานเทรด Coin Asset หลังจากระดมเงินทุนผ่านการเสนอขายเหรียญดิจิทัล หรือ ICO เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
• โดยเงินทุนที่ได้จากการระดมทุนผ่านเงินดิจิทัลจำนวน 100 ล้านโทเคนโดยได้รับเงินผ่านการระดมทุน 660 ล้านบาท ทางบริษัท เจ เวนเจอร์ จำกัด จะนำมาพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการกู้ยืมเงินในระบบดิจิทัลภายใต้ระบบสินเชื่อดิจิทัลแบบไร้ตัวกลาง หรือ Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) โดยให้บริการบนระบบบล็อกเชน โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 4/2018 นี้

นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และแอพพลิเคชั่นทางด้านฟินเทคและลงทุนในธุรกิจ Started-up เปิดเผยว่า JFIN จำนวน 100 ล้านโทเคน ที่ได้เข้าทำการซื้อขายในตลาดรองเป็นครั้งแรก (1st Trading Day) ในวันนี้ (2 พ.ค.) โดยราคาที่มีการแมทช์กันครั้งแรกอยู่ที่ 6.45 บาท จากราคาเสนอขายในวันแรกที่ 6.60 บาท

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า JFIN มีจำนวนดิจิทัลโทเคนทั้งหมด 300 ล้านโทเคน โดยนำมาทำ ICO ในรอบนี้ครั้งแรก 100 ล้านโทเคน ที่ราคาขาย 6.60 บาทต่อโทเคน เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 660 ล้านบาท ทีมงานได้เริ่มดำเนินการพัฒนาระบบ JFIN Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการการกู้ยืมที่อยู่บนระบบบล็อคเชน มีความปลอดภัยสูง คาดระบบจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2562 จะนำไปใช้ในธุรกิจสินเชื่อของบริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ

ระบบการให้กู้ยืมเงินผ่านระบบดิจิทัล หรือDLP ได้มีการทดสอบกับลูกค้าไปบางกลุ่มบ้างแล้วผ่านการทดลองปล่อยกู้ยอดรวมเริ่มต้น 3 ล้านบาทเพื่อทดสอบระบบและเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าที่กู้ยืมผ่านระบบดิจิทัล โดยเน้นลูกค้ากลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูงเช่นกลุ่มแม่ค้า กลุ่มพริตตี้ ที่มีรายได้เป็นเงินสด แต่ไม่อยู่ในระบบฐานเงินเดือน ไม่มีีบัตรเครดิต ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าที่มีศักยภาพสูง โดยระบบจะเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 4 /2018 และถ้ารันบนบล็อคเชนคาดว่าจะประมาณ ไตรมาส 4/2019 ซึ่งขึ้นกับความชัดเจนของปัจจัยต่างๆอีกที นายธนวัฒน์กล่าว

หลังจากนี้ทางเจเวนเจอร์สมีแผนโรดโชว์ในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก เริ่มต้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเข้าถึงผู้ลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยความมุ่งหวังให้ JFIN เป็นที่รู้จักในฐานะเหรียญของคนไทยที่ได้รับการยอมรับระดับสากล และวางแผนไปเทรดในกระดานต่างประเทศที่ HitBTC ที่ฮ่องกง และ Upbit ที่เกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยผู้บริหารหวังว่าสกุลเงิน JFIN จะติดท็อป 100 จองสกุลเงินดิจิทัลโลกให้ได้ โดยก่อนหน้านี้สกุลเงินสัญชาติไทยที่ทำไปได้แล้ว OMISE และ Z-COIN

ขณะที่เช้านี้ราคาหุ้นของบมจ.เจมาร์ท JMART ร่วงหลังเปิดตลาด โดยราคาต่ำสุดเช้านี้อยู่ที่ 11.30 บาท โดยช่วงบ่ายราคากลับมาที่ 11.60 บาท ลดลงจากราคาเมื่อวันจันทร์ 0.70 บาท หรือ -5.69%

หลังจากเปิดเทรดวันแรกสำหรับ JFIN COIN กลับสะท้อนต่อราคาหุ้นของ JMART ทันทีอาจต้องดูต่อไปว่า ระบบสินเชื่อดิจิทัลแบบไร้ตัวกลาง (JFIN DDLP) จะสามารถพัฒนาเป็นเครื่องมือผลิตกระแสเงินสดได้ตามที่ตั้งใจไว้ได้รวดเร็วตามความคาดหวังของนักลงทุนหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป