BDMS ดันธุรกิจโรงแรมสุขภาพเต็มตัว จับมือ Mövenpick เปลี่ยนปาร์คนายเลิศเป็น Wellness Center แห่งแรกของเอเชีย
ผ่านมาประเทศไทยขึ้นชื่อในเรื่องประเทศปลายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมุลค่าการท่องเที่ยวแตะ 2 ล้านล้านบาท ขณะที่ธุรกิจการรักษาพยาบาลให้แก่ชาวต่างชาติเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมูลค่าของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (wellness Tourism) ของไทยอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาท ปัจจุบันธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 5.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีอัตราการเติบโตปีละ 7%
จากกระแสดังกล่าวทำให้ บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เข้าซื้อที่ดินโรงแรมปาร์คนายเลิศและอาคารโดยรอบมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมลงทุนเพิ่มอีก 2,000 ล้านบาทในการปรับปรุงภายในทั้งหมด ควบคู่กับการเปิดตัว BDMS Wellness Clinic และจดทะเบียนบริษัทบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท จำกัด(BWR) ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาทเพื่อดำเนินธุรกิจ BDMS wellness clinic ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น
การจับมือของเครือ BDMS กับ Mövenpick แบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทสัญชาติสวิสที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้ร่วมกันเปิดตัว “เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพ” (Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok) รีสอร์ทแห่งใหม่ล่าสุดภายใต้คอนเซ็ปต์ “สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Well-Being)” จุดเด่นของ เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส คือ การเชื่อมต่อโดยตรงกับ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) คลินิกสุขภาพด้านดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพระดับเอเชีย ซึ่งผู้เข้าพักสามารถใช้บริการที่ศูนย์ฯ แห่งนี้เพื่อดูแลสุขภาพให้มีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ประกอบด้วยโปรแกรมที่หลากหลาย อาทิ กายภาพบำบัด สุขภาพทางเดินอาหาร ทันตกรรม และคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก
เรย์มอนด์ ช็องประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ได้เล่าถึง กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายไว้ 3 กลุ่มด้วยกันคือ 1) กลุ่มที่มารักษาสุขภาพโดยตรง ผู้ที่เจ็บป่วยและจำเป็นต้องการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง 2) กลุ่มรักษาโรคระยะสั้นอาทิ โรคทางทันตกรรมที่ต้องพักกับโรงแรมประมาณ 5-6 วัน 3) กลุ่มสัมมนาประชุมและมาพักผ่อน
สำหรับการเลือก เมอเวนพิค (Mövenpick) มาเป็นพันธมิตรในครั้งนี้เพราะเป็นโรงแรมมาตรฐานระดับโลก บริหารโรงแรมมากกว่า 85 แห่งใน 25 ประเทศทั่วโลก รวมถึงโรงแรมและรีสอร์ทในไทยอีก 7 แห่ง มีความเชี่ยวชาญเป็นเลิศด้านอาหารและเครื่องดื่มรวมทั้งช็อคโกแลตที่มีมายาวนานตั้งแต่ทศวรรษ 1940 ยังเป็นแบรนด์โรงแรมที่ได้รับการรับรองจาก Green Globe มากที่สุดในโลก ด้วยการบริหารภายใต้คอนเซปต์ว่า “makes moments” ด้วยการทำสิ่งธรรมดาในแบบที่ไม่ธรรมดา ทำให้กลายเป็นตัวเลือกในครั้งนี้
ในด้านการบริการหลังจากได้รับใบอนุญาตในส่วนคลีนิคเต็มรูปแบบแล้วจะมีการให้บริการทั้ง โปรแกรมชะลอวัย โปรแกรมดูแลฮอร์โมน โปรแกรมในการใช้ยีนส์บำบัด มีการออกแบบการรักษาโดยทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งมีแอพสำหรับปรึกษาและสื่อสารกับทีมแพทย์เพื่อให้เกิดการรักษาอย่างต่อเนื่องหลังจากกลับไปแล้ว
เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพ” (Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok) ทำการปรับปรุงห้องพักทั้งหมดให้พักผ่อนได้สบายขึ้น มีการนำเอาเทคโนโลยีการนอนที่ช่วยปรับความนุ่มหรือแข็งของเตียงได้ทั้งสองฝั่ง ระบบ i-home ให้เกิดความผ่อนคลายในการพักผ่อน ตลอดจนนำเอา Vitamin C Shower ในห้องน้ำ พร้อมทั้งเสื่อโยคะในทุกห้อง
ทางคุณเรย์มอนด์ ช็อง ประธาน BDMS Wellness ได้ตอบถึงตัวธุรกิจว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้อัตราเข้าพักน่าจะอยู่ที่ประมาณ 40% โดยอยู่ในกลุ่มสัมมนา กลุ่มมาประชุม และกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปก่อน และคาดว่าในไตรมาส 4 จะขยับเป็น 60-70%
โดยวางเป้าหมายว่าจะให้เป็นกลุ่มดูแลสุขภาพและรักษาสุขภาพ 100% ภายใน 2 ปี โดยสัดส่วนรายได้มาจากฝั่งสุขภาพไว้ที่ 90% และส่วนของห้องพักที่ 10% ลูกค้าเป็นกลุ่มรายได้ปานกลางค่อนไปทางสูงในเอเชียแปซิฟิก โดยเจาะกลุ่มนี้ก่อน โดยจะประชาสัมพันธ์ โรดโชว์ รวมทั้งการดึงให้ลูกค้าของรพ.กรุงเทพที่มีอยู่ประมาณ 2-3 ล้านรายเข้ามาใช้บริการ และยังเน้นอบรมพนักงานให้มีความรู้มากกว่าการบริการ เพราะเป็น Wellness Centerที่ต้องการความรู้ในเรื่องสุขภาพ อาหาร มากขึ้น
“สำหรับการขยายตลาดนั้นการหาสถานที่ใหม่ๆเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โครงการนี้เกิดขึ้นเพราะได้โรงแรมปาร์คนายเลิศซึ่งอยู่ใจกลางเมือง มีสวนต้นไม้ที่ร่มรื่นมากเหมาะกับพักผ่อนและฟื้นฟูสุขภาพอย่างมาก ถ้าไม่ได้ที่นี่โครงการนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้น” คุณเรย์มอนด์ ช็อง กล่าวทิ้งท้าย