อเมซอนก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่มีแบรนด์มูลค่าเป็นอันดับ 1 ของโลกเป็นที่เรียบร้อย
การจัดอันดับมูลค่าของแบรนด์ 100 อันดับแรกของโลกซึ่งเป็นผลสำรวจโดย Brand Z พร้อมกับบริษัทโฆษณาชั้นนำอย่าง WPP และบริษัทวิจัยการตลาด Kantar ที่เริ่มจัดอันดับมูลค่าแบรนด์มาตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา โดยเก็บข้อมูลจากผลสำรวจผู้บริโภคกว่า 4 ล้านคนจาก 51 ประเทศในเรื่องเกี่ยวกับแบรนด์
ผลการจัดอันดับมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดในโลก
ผลการสำรวจมูลค่าแบรนด์ทั่วโลกในปีที่ผ่านมาปรากฎว่า แบรนด์ Amazon ซึ่งทำธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ไต่ขึ้นเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกไปแล้วหลังจากที่แบรนด์ Google และ Apple ยึดครองสลับกันเป็นเบอร์หนึ่งมาตั้งแต่ปี 2007
โดยในปี 2019 นี้มูลค่าแบรนด์ของ Amazon เพิ่มขึ้นถึง 52% ซึ่งตอกย้ำการเติบโตของบริษัทควบคู่กัน โดยสิ่งที่นักวิจัยที่ร่วมทำการสำรวจเรียกว่า ระบบนิเวศของแบรนด์ (ecosystem brand) ซึ่ง Amazon ได้แตกแขนงธุรกิจออกไปจากออนไลน์สู่ออฟไลน์และการให้บริการ cloud ที่ทุกผลิตภัณฑ์เชื่อมเข้าหากันอย่างแนบสนิท
ขณะที่แบรนด์สินค้าหรู อย่าง Louis Vuitton ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์หรูที่มีมูลค่าสูงที่สุด ตามด้วย Chanel โดยมุลค่าของแบรนด์มาจากการตอบโจทย์เรื่องประสบการณ์ในการซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค
ในการจัดอันดับมูลค่าแบรนด์ในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยียังคงยึดพื้นที่มูลค่าแบรนด์ไว้มากที่สุด มีเพียง Visa ซึ่งเป็นบริษัทด้านการชำระเงิน McDonald’s บริษัทด้านอาหารและ AT&T บริษัทโทรคมนาคม ที่เบียดบริษัทเทคโนโลยีติด 1 ใน 10 แบรนด์ที่มีมุลค่าสูงที่สุดในโลกไว้ได้
นอกจากนี้ใน 10 อันดับแรกของแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดพบว่าเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันถึง 8 บริษัท มีบริษัทจีนที่สามารถเข้ามาในท็อปเทนนี้ได้ 2 บริษัทนั่นคือ Alibaba และ Tencent ขณะทีบริษัทในยุโรปที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดคือ SAP จากเยอรมนีที่ปีนี้รั้งอยู่ในลำดับที่ 16 ส่วนบริษัทของเอเชียที่ไม่รวมจีนที่มีมูลค่าสูงสุดคือแบรนด์ ซัมซุง อยู่ลำดับที่38 ขณะที่ญี่ปุ่นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดคือ Toyota อยู่ลำดับที่ 41 น่าสนใจคือในอาเซียนมีแบรนด์ที่ติดอันดับท็อป 100 อยู่ด้วยคือแบรนด์ BCA ซึ่งเป็นธนาคารจากอินโดนีเซียในครั้งนี้อยู่ลำดับที่ 99
20 อันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
- Amazon จาก สหรัฐ ธุรกิจค้าปลีก มูลค่า 315,505 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Apple จาก สหรัฐ ธุรกิจเทคโนโยี มูลค่า 309,500 ล้านดอลลาร์
- Google จากสหรัฐ ธุรกิจเทคโนโลยี มูลค่า 309,000 ล้านดอลลาร์
- Microsoft จาก สหรัฐ ธุรกิจเทคโนโลยี มูลค่า 251,244 ล้านดอลลาร์
- Visa จาก สหรัฐ ธุรกิจรับชำระเงิน มูลค่า177,918 ล้านดอลลาร์
- Facebook จาก สหรัฐ ธุรกิจเทคโนโลยี มูลค่า158,968 ล้านดอลลาร์
- Alibaba จาก จีน ธุรกิจค้าปลีก มูลค่า 131,246 ล้านดอลลาร์
- Tencent จาก จีน ธุรกิจเทคโนโลยี มูลค่า 130,862 ล้านดอลลาร์
- McDonald’s จาก สหรัฐ ธุรกิจร้านอาหาร มูลค่า130,368 ล้านดอลลาร์
- AT&T จาก สหรัฐ ธุรกิจผู้ให้บริการโทรคมนาคม มูลค่า 108,375 ล้านดอลลาร์
- Verizon จาก สหรัฐ ธุรกิจผู้ให้บริการโทรคมนาคม มูลค่า 108,400 ล้านดอลลาร์
- Mastercard จาก สหรัฐ ธุรกิจรับชำระเงิน มูลค่า 91,929 ล้านดอลลาร์
- IBM จาก สหรัฐ ธุรกิจเทคโนโลยี มูลค่า 86,005 ล้านดอลลาร์
- Coca-Cola จาก สหรัฐ ธุรกิจเครื่องดื่ม มูลค่า 80,825 ล้านดอลลาร์
- Marlboro จาก สหรัฐ ธุรกิจยาสูบ มูลค่า 71,958 ล้านดอลลาร์
- SAP จาก เยอรมนี ธุรกิจเทคโนโลยี มูลค่า57,528 ล้านดอลลาร์
- Disney จาก สหรัฐ ธุรกิจบันเทิง มูลค่า 57,007 ล้านดอลลาร์
- UPS จาก สหรัฐ ธุรกิจโลจิสติกส์ มูลค่า 54,899 ล้านดอลลาร์
- The Home Depot จาก สหรัฐ ธุรกิจค้าปลีก มูลค่า 53,507 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- Xfinity จาก สหรัฐ ธุรกิจเทคโนโลยี มูลค่า 48,889 ล้านดอลลาร์
Source: FT