23-07-2020

ธปท. ย้ำ ไม่ได้แทรกแซงค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า

บทความโดย
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายสื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย

จากรายงานข่าวซึ่งอ้างอิงรายงานของธนาคาร UBS จากสวิสเซอร์แลนด์ว่าทางกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา อาจจะขึ้นบัญชีดำประเทศไทยและไต้หวัน เรื่องการแทรกแซงอัตราการแปลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ

โดยเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกากำหนดเอาไว้นั่นคือ 1) ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐตั้งแต่ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป 2) แทรกแซงค่าเงินต่อเนื่องเกินกว่า 6 เดือนในรอบ 1 ปีย้อนหลัง และเข้าซื้อเงินดอลลาร์เกินกว่า 2% ของจีดีพีของประเทศ 3) เกินดุลบัญชีเดินสะพัดมากกว่า  2% ของจีดีพี

ล่าสุดทางธนาคารแห่งประเทศไทย โดยนางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายสื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่า ประเทศไทยและไต้หวันอาจจะถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จับตาว่าเป็นประเทศที่มีการแทรกแซงค่าเงิน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯ นั้น ขอเรียนว่า ธปท. ได้หารือกับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายในตลาดการเงินโลก พัฒนาการของการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศไทย และความจำเป็นของ ธปท. ที่ต้องเข้าดูแลเพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินในบางช่วงจังหวะเวลาที่มีเงินทุนไหลเข้าอย่างเฉียบพลันจากการปรับมุมมองของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดการเงินโลกและในประเทศอุตสาหกรรมหลัก

ธปท. ได้ย้ำเสมอว่า ธุรกรรมของ ธปท. ในตลาดเงินตราต่างประเทศ มิได้มุ่งหวังที่จะบิดเบือนค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้ากับคู่ค้าของไทย เห็นได้จากการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปได้ทั้ง 2 ทิศทาง ทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า ไม่ได้ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง และการทำธุรกรรมในตลาดเงินตราต่างประเทศของ ธปท. เป็นไปทั้ง 2 ทางเช่นกัน คือ มีทั้งการซื้อและการขายเงินตราต่างประเทศ ตามปริมาณเงินทุนเคลื่อนย้ายที่เข้าออกอย่างผันผวนและรวดเร็ว