หมากถัดไปของ Amazon คือการซื้อ Toy ‘R’ Us ?
- มีข่าวลือออกมาว่า Amazon จะซื้อ Toy ‘R’ Us
มีข่าวลือออกมาว่าทาง Amazon จะเข้าซื้อกิจการของ Toy ‘R’ Us กิจการขายของเล่นที่ใหญ่ที่สุดเจ้าหนึ่งของโลก ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเป็นจริงแต่อย่างไร
โดยทางเว็บไซต์ Inc ได้มีการวิเคราะห์คววามล้มเหลวของ Toy ‘R’ Us ได้อย่างน่าสนใจว่าเพราะเหตุใดจึงทำให้ Toy ‘R’ Us ประสบผลขาดทุนจนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
ความผิดพลาดของ Toy ‘R’ Us
ความผิดพลาดครั้งแรกที่ Toy ‘R’ Us เริ่มต้น เมื่อต้นปี 2000 เมื่อเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายของเล่นบนเว็บไซต์ Amazon แทนที่จะขายของเล่นออนไลน์ด้วยตัวเอง
ความผิดพลาดเรื่องที่สองคือการไม่ตรวจสอบเรื่องโลเคชั่นของร้านค้าให้ละเอียดและรวดเร็วพอ เมื่อตรวจพบก็สายเกินไปแล้ว
ความผิดพลาดครั้งที่สาม คือการใช้เงินกู้ที่มากเกินไปจากการลงทุน และถูกบีบให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมากที่ขัดขวางการลงทุนด้านนวัตกรรม
ตอนนี้ พวกเขากำลังจะปิดสาขาทั้งหมดในสหรัฐฯ และต้องการขายร้านค้าทั้งหมดในแคนาดา
นับเป็นข่าวร้ายสำหรับคนที่เติบโตมากับร้านขายของเล่นอย่าง Toy ‘R’ Us
แต่ Amazon ไม่คิดเช่นนั้น พวกเขาเงียบมากเกี่ยวกับเรื่องของ Toy ‘R’ Us และตอนนี้ก็กำลังตัดสินใจที่จะก้าวต่อไป
เขาพิจารณาที่จะซื้อ Toy ‘R’ Us แต่ไม่ใช่เหตุผลที่คุณทั้งหลายคิดกัน Amazon สนใจพื้นที่ ไม่ได้สนใจธุรกิจของเล่น
ทำไมเป็นการเดินหมากที่ฉลาดสำหรับ Amazon
เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon เข้าซื้อกิจการ wholefoods กว่า 400 สาขา ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการมีสาขาอยู่ใกล้ลูกค้ามากขึ้น
ขณะที่ Walmart เพิ่มการจัดส่งสินค้าภายในวันเดียว การขยับเรื่องสาขาจะช่วยให้ Amazon มีสถานที่ต่างๆไว้มารับสินค้าได้รวดเร็วกว่าที่พวกเขาทำอยู่ตอนนี้
เมื่อมีสาขาที่มากขึ้นพร้อมทั้งเพิ่มความเร็วในการเช็คสินค้า ซื้อสินค้าและคิดเงินที่เคาท์เตอร์เป้นจุดที่ไม่เหมือนใคร พร้อมกับลูกค้ายังสามารถทดลองใช้ Amazon Echo’s ร่วมกับสินค้าในแบรนด์ของ Amazon แน่นอนว่าทำให้ลูกค้ารู้สึกมีความใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น
Toys ‘R’ Us มีสาขากว่า 700 แห่งและดูเหมือนว่า Amazon จะเลือกเก็บไว้เพียงบางสาขาเท่านั้น ทำให้ Amazon มีข้อได้เปรียบอย่างมากหาก Amazon ซื้อกิจการของ Toy ‘R’ Us จริง
Source: Inc