26-02-2018

ข่าวดีหรือข่าวร้ายเมื่อ A.I. ราคาถูกลง

บทความโดย
  • เทคโนโลยีด้าน I. และคอมพิวเตอร์ที่ก้าวไปอย่างรวดเร็วอาจจะเป็นดาบสองคมที่สร้างปัญหาด้านความปลอดภัย
  • ราคาที่ถูกลงทำให้ I. หุ่นยนต์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
  • ปัจจุบันเทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายได้หลายทาง

ภาพจาก nytimes

การพัฒนาที่รวดเร็วของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี A.I. ในปัจจุบัน อาจจะนำมาซึ่งความสะดวกสบายในชีวิตของคนในหลายมิติ ซึ่งแน่นอนว่ามันก็กลายเป็นดาบสองคมเมื่อมีการนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิด     ยกตัวอย่างเช่น ล่าสุดบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีแห่งหนึ่งจาก Silicon Valley ได้เปิดตัวโดรนตัวใหม่ที่สามารถกำหนดการทำงานด้วยระบบ A.I. ของตัวมันเองได้ทั้งหมด และผู้ใช้สามารถใช้ application บนสมาร์ทโฟน เพื่อสั่งให้โดรนดังกล่าวติดตามเป้าหมายที่เป็นบุคคลได้ ซึ่งเมื่อมีการสั่งให้ติดตามเป้าหมายแล้ว บุคคลที่เป็นเป้าในการติดตามนั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะหลุดจากการติดตามดังกล่าวได้

ความจริงแล้วเทคโนโลยีโดรนที่มีการใช้ในสังคมปกตินั้นถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิง แต่เมื่อถูกนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ที่ไม่ถูกต้องก็สามารถสร้างปัญหาทั้งด้านความปลอดภัย และการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้

 

เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่กลุ่มผู้วิจัยและพัฒนาระบบ A.I. ทั้งในสหรัฐฯและอังกฤษต่างก็ตระหนักถึงความเสี่ยงดังกล่าว โดยพวกเขาได้มีการนำเสนอรายงานเรื่องความเสี่ยงที่เทคโนโลยี A.I. จะถูกนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ที่เลวร้าย และพวกเขาพยายามหาทางป้องกันด้วยวิธีการไม่เผยแพร่เทคโนโลยีเหล่านั้น หากว่ายังไม่สามารถเข้าใจถึงความเสี่ยงดังกล่าวได้

ผู้เชี่ยวชาญด้าน A.I. นั้นมีการพิจารณาถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีมาเป็นเวลาหลายปี และพยายามที่จะป้องกันปัญหาเหล่านั้น ซึ่งโดรนติดตามตัวนั้นเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่พวกเขากังวล

โดรนดังกล่าวผลิตจากบริษัท Skydio เปิดตัวในเดือนนี้ โดยมีราคา 2,499 เหรียญสหรัฐฯ และมันถูกสร้างจากเทคโนโลยีทั่วไปที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เช่น  กล้องธรรมดา ซอฟแวร์ทั่วไป และ คอมพิวเตอร์ชิพราคาถูก  ซึ่งเมื่อนำมารวมกันก็กลายเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ได้ง่าย ราคาไม่แพง แต่อันตราย

“เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นของหาง่าย และสามารถนำไปใช้ได้หลายรูปแบบ” Adam Bry 1 ในผู้ก่อตั้งบริษัท Skydio กล่าว เทคโนโลยีแบบเดียวกันสามารถนำไปใช้ในระบบอัตโนมัติต่างๆ เช่น รถยนต์ หุ่นยนต์ภายในบ้าน กล้องรักษาความปลอดภัย และอินเตอร์เน็ตระยะไกล

แต่ในทางกลับกันเทคโนโลยี A.I. เหล่านี้ก็นำมาซึ่งสิ่งไม่พึงประสงค์หลายอย่าง เช่น คอมพิวเตอร์อัลกอริทึมในปัจจุบันสามารถสร้างภาพจำลองของสิ่งที่ไม่มีจริงขึ้นมาได้ และปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อมีการแพร่ขยายของเทคโนโลยีเหล่านี้ออกไป

การพัฒนาที่รวดเร็วของเทคโนโลยีเหล่านี้ ได้สร้างช่องโหว่ใหม่ด้านความปลอดภัย เมื่อคอมพิวเตอร์นั้นอาจถูกหลอกจากภาพที่ไม่มีอยู่จริงได้ เช่น การรบกวนการทำงานของกล้องรักษาความปลอดภัย หรือ การสร้างปัญหากับรถยนต์ไร้คนขับ

 

นอกจากนี้ระบบ A.I. ที่มีความสามารถสูงขึ้น เช่น การสร้างเสียง และวิดีโอ ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับการสร้างเกม ภาพยนตร์อนิเมชั่น และเทคโนโลยี VR ก็สร้างปัญหาออกมาไม่น้อย เช่น การตัดต่อภาพของดาราหรือคนดังเข้าไปไว้ในหนังโป๊ การตัดต่อภาพปาก คำพูดของผู้นำประเทศ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้เรียกว่า “Deepfakes” และเทคโนโลยีแบบนี้นำมาซึ่งความเข้าใจผิด และการละเมิดกฎหมายในหลายประเด็น

จะเห็นได้ว่าแม้เทคโนโลยีต่างๆที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วจะสร้างความสะดวกสบายในชีวิตของคนในปัจจุบันมากแค่ไหน แต่ปัญหาที่เกิดจากเทคโนโลยีก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน การใช้งานที่ถูกต้องและการวางแผนเพื่อป้องกันการนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิดจึงเป็นสิ่งจำเป็นไม่น้อยไปกว่าการพัฒนา

 

Source: nytimes