FED ลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% พร้อมรับมือเศรษฐกิจชะลอตัวในปี 2020
ธนาคารกลางสหรัฐได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ 1.75-2.00% จากระดับ 2.00-2.25% เพื่อรองรับความเสี่ยงของสัญญาณเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวทั่วโลก พร้อมทั้งประเด็นสงครามการค้าที่ยังไม่มีวี่แววจะจบลงในระยะอันใกล้นี้ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับลดเป็นครั้งที่สองในปีนี้
เฟดมองว่าเศรษฐกิจยังแข็งแรงจากอัตราคนว่างงานรวมทั้ง้เงินเฟ้อที่เริ่มกลับมาซึ่งทางเฟดมองไว้ว่าเป้าหมายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2% โดยมีมติเป็น 7-3 ซึ่งเฟดไม่ได้ส่งสสัญาณการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งต่อไปอย่างไร
โดยก่อนหน้านี้ทางประธานาธิบดีทรัมพ์ได้ออกมาทวิตเชิงว่ากล่าวนายเจอโรม พาวเวลว่า “Jat Powell และ Fed ล้มเหลวอีกครั้ง ไม่มีกึ๋น ไร้สติ ไร้วิสัยทัศน์ ผู้สื่อสารที่เลวร้าย”
Jay Powell and the Federal Reserve Fail Again. No “guts,” no sense, no vision! A terrible communicator!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) September 18, 2019
ส่วนทางนายเจอโรม พาวเวล กล่าวว่าเฟดจะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องหากมีความจำเป็น โดยคณะกรรมการเฟดที่ลงคะแนนให้คงอัตราดอกเบี้ยได้แก่ นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน ขณะที่ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ต้องการให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยลงไป 0.50%
ขณะที่ทางธนาคารกลางสหรัฐได้มองเศรษฐกิจสหรัฐไปข้างหน้าโดยได้คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี2019 ไว้ที่ 2.2% และเริ่มชะลอตัวลงในปี 2020 อยู่ที 2.0% และในปี 2021 จะลงไปที่ 1.9% โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจระยะยาวจะอยู่ที่ 1.9% ในส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2020 คาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระหว่าง 1.8-2.1% โดยดอกเบี้ยระยะยาวจะอยู่ที่ 1.8-2.0%