ธุรกิจคริปโตคึกคัก สายงานกำกับดูแลเข้าร่วมงานมากขึ้น
หลังจากผ่านประสบการณ์ทำงานกว่า 3 ทศวรรษในด้านการกำกับดูแลการดำเนินงานกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ทั้ง Pershing ซึ่งเป็นบริษัทในเครือธนาคาร Bank of New York Mellon และ Goldman Sachs เจฟฟ์ โฮโรวิทซ์ได้ตัดสินใจในสิ่งที่คาดไม่ถึงในโลกของสายงานของเขา
กรกฎาคม 2018 เจฟฟ์ได้รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลให้กับ Coinbase ซึ่งประกอบธุรกิจตลาดซื้อขายสกุลเงินคริปโต ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในชีวิตการทำงานของเขาสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัล
“มันไม่ใช่เพราะผมใจไม่กล้าพอ” โฮโรวิทซ์อธิบายการตัดสินใจผละงานของเขาจากวอลล์สตรีทสู่วงการคริปโต “คุณต้องมีแนวคิดทางความเสี่ยงที่ยืดหยุ่น ทัศนคติเดิมๆในด้านการกับดูแลที่เสมือนหนึ่งเป็นดอกเตอร์โนไม่สามารถนำไปใช้ได้จริงในอุตสาหกรรมคริปโต”
โฮโรวิทซ์เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าอาวุโสในสายงานกำกับดูแลหลายๆคนที่ได้รับการว่าจ้างโดยบริษัทที่ทำธุรกิจสกุลเงินคริปโตในช่วงปีที่ผ่านมาเพื่อเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับการเข้ามาตรวจสอบและคุมเข้มจากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่มากขึ้นและช่วยให้ธุรกิจคริปโตเป็นที่ยอมรับในหมู่นักลงทุนกระแสหลักมากขึ้น
บริษัทคริปโตหลายๆแห่งมีความกระตือรือร้นที่จะทาบทามผู้บริหารมากประสบการณ์แบบโฮโรวิทซ์ซึ่งคลุกคลีในงานด้านกฎหมายและการกำกับดูแลการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทที่ปรึกษากฎหมายขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามการที่จะจูงใจผู้บริหารแนวหน้าระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้คร่ำหวอดในวงการสรรหาผู้บริหารระบุ
ทั้งนี้เนื่องจากธรรมชาติของคนที่ทำงานในสายงานด้านนี้มักจะเป็นผู้ที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงที่สูงมากนัก และมักจะถูกผลักออกจากวงการคริปโตเนื่องจากวัฒนธรรมองค์กรที่มีความเป็นเสรีนิยมเข้มข้นซึ่งนั่นหมายถึงการมีท่าทีอันไม่เป็นมิตรกับหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐได้
การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลยังคงเผชิญกับภาวะหดตัวลงแรงของปริมาณการซื้อขายที่กินเวลานานนับปี ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับบริษัทในอุตสาหกรรมคริปโตที่ต้องการดึงตัวผู้มีความสามารถในด้านนี้ให้มาร่วมงานด้วย
ตัวเลขจากวงการสรรหาผู้บริหารระบุว่า อัตราเงินเดือนต่อปีสำหรับตำหน่งระดับบริหารในสายงานกำกับดูแลในลอนดอนนั้นอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 120,000 ปอนด์หรือราว 158,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ขณะที่ตำแหน่งงานเดียวกันนี้ให้ค่าตอบแทนกว่า 300,000 ดอลลาร์หรือมากกว่าสำหรับบริษัทคริปโตขนาดใหญ่ในประเทศสหรัฐฯ
เนื่องจากอัตราเงินเดือนที่ไล่เลี่ยกับงานด้านกำกับดูแลในอุตสาหกรรมการเงินปกติ ผู้สรรหามักจูงใจผู้บริหารในกลุ่มนี้ด้วยโอกาสการทำงานในสายงานคริปโตซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่มีการเติบโตสูงมาก
“ประธานเจ้าหน้าที่กำกับดูแลที่เก่งที่สุดจะสามารถจำกัดความเสี่ยงเพื่อความอยู่รอดได้ และพวกเขามักจะมีลักษณะที่ไม่ชอบเสี่ยงมากเมื่อคิดเรื่องเส้นทางในการทำงานของตนเอง” นายสก็อตต์ เฟลทเชอร์ ผู้ก่อตั้ง Intersection Growth Partners บริษัทสรรหาผู้บริหารในวงการฟินเทคกล่าวกับรอยเตอร์
“มันเป็นงานหินมากที่จะหาตัวบุคคลที่มีทักษะที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าและมีความตั้งใจที่จะแบกรับความเสี่ยงในการเข้ามาทำงานในบริษัทด้านสกุลเงินคริปโต” เฟลทเชอร์กล่าวเพิ่มเติม
การตรวจสอบลูกค้ารายใหม่, การเดินสายสอบถามข้อมูลกับหน่วยงานกำกับดูแล และระบุถึงภาพรวมของข้อกฎหมายที่ต้องนำมาประกอบกับการทำธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์การเงินตัวใหม่ซึ่งโดยมากแล้วมักเป็นธุรกรรมข้ามประเทศ ทั้งหมดนี้คืองานที่ท้าทายกว่าปกติในวงการคริปโต
“ในเรื่องของการหาลูกค้ารายใหม่ คุณต้องทำดิวดีลีเจนท์ด้วยความรอบคอบ” ชาร์ล บีชจากบริษัท Lendingblock ซึ่งทำธุรกิจด้านระบบให้ยืมหลักทรัพย์สำหรับธุรกิจสกุลเงินคริปโตในลอนดอนกล่าวกับรอยเตอร์ “แต่คุณก็อาจจะไม่ได้รับการรับประกันจากธุรกิจคริปโตแบบเดียวกับที่ได้จากบริษัทในธุรกิจการเงินกระแสหลัก”
ก่อนหน้านี้บีชเคยทำงานในตำแหน่งอาวุโสในสายงานความเสี่ยงกับ IG Group, ธนาคาร UBS และ PwC
คดีแฮกสุดอื้อฉาว
ช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมคริปโตต้องประสบกับกรณีอื้อฉาวมากมายไม่ว่าจะเป็นการถูกแฮค ความล้มเหลวของตัวเทคโนโลยี และข้อกล่าวหาในเรื่องการใช้เหรียญคริปโตไปเพื่อการฟอกเงินและธุรกรรมออนไลน์ผิดกฎหมาย
กันยายน 2018 สำหนักงานอัยการมหานครนิวยอร์กได้กล่าวว่า บริษัทที่ให้บริการซื้อขายเงินคริปโตหลายรายมีปัญหาในแง่ของการขัดกันด้านผลประโยชน์, สุ่มเสี่ยงต่อพฤติกรรมปั่นราคา และ การสูญเงินของลูกค้า
ในเดือนเดียวกันนี้ สมาชิกรัฐสภาอังกฤษได้เปรียบเปรยตลาดเงินคริปโตว่าไม่ต่างจาก “แดนเถื่อน” และมองว่าภาครัฐควรมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคและทำให้ระบบปลอดภัยจากการแฮคมากขึ้น
หน่วยงานตัวแทนอุตสาหกรรมเงินคริปโตหลายๆแห่งเช่น CryptoUK ของอังกฤษ ได้ตอบรับการเข้ามากำกับดูแลอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น โดยเรียกร้องให้สร้างสมดุลระหว่างกฎระเบียบที่ดูแลคุ้มครองผู้บริโภคและการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม ตัวแทนรายอื่นๆเช่น Global Digital Finance ได้มองถึงการจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติของอุตสาหกรรมนี้ในระดับสากล
ข้อผิดพลาดในธุรกิจคริปโตยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มกราคม 2019 เงินในบัญชีลูกค้าราว 135 ล้านดอลลาร์ที่เก็บในรูปของเงินคริปโตในตลาดซื้อขายเงินคริปโตสัญชาติแคนาดา Quadriga ได้ถูกอายัดไว้เนื่องจากผู้ก่อตั้ง Quadriga ซึ่งเป็นคนเดียวที่ทราบรหัสผ่านเกิดเสียชีวิตกะทันหัน
ในคำเบิกความที่ยื่นในนาม Quadriga สตรีที่เป็นแม่หม้ายของผู้ก่อตั้งกล่าวว่า เธอไม่มีรหัสในการเข้าถึง “Cold Wallet” ซึ่งรักษาเหรียญคริปโตในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้เสียชีวิต
ปี 2018 บรรดาแฮคเกอร์ได้ขโมยเหรียญคริปโตมูลค่ากว่า 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจาก Coincheck ผู้ให้บริการซื้อขายสกุลเงินคริปโตในโตเกียว ส่งผลให้หน่วยภาครัฐในญี่ปุ่นทำการตรวจสอบอุตสากรรมดังกล่าวเป็นวงกว้าง
ต่อมา Coincheck ได้จ่ายชดเชยเงินบางส่วนให้กับนักลงทุนเป็นจำนวน 46,000 ล้านเยนหรือราว 413 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯด้วยเงินทุนของตัวเอง และต่อมา Monex Group ก็ได้เข้ามาซื้อกิจการ Coincheck เมื่อเดือนเมษายน 2018
“จากลีกใหญ่สู่ลีกเล็ก”
เนื่องด้วยหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐกำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่ที่เข้มข้นขึ้นหรือเพิ่มการคุมเข้มภายใต้กรอบกฎหมายเดิมสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต ความต้องการผู้บริหารในสายงานกำกับดูแลจึงมีมากขึ้นตามไปด้วย
“ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เราเห็นการเติบโตกว่า 230% ของความต้องการในตำแหน่งงานในสายการกับดูแล” เซท คูเซโร ผู้ก่อตั้ง Plexus บริษัทสรรหาผู้บริหารในลอนดอนเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมคริปโตกล่าวกับรอยเตอร์
บริษัทให้บริการซื้อขายคริปโตยังคงมองหาบุคลากรที่สามารถช่วยให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับมาตรฐานการดำเนินงานต่างๆที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าในกลุ่มนักลงทุนสถาบันเช่นกลุ่มกองทุนบำนาญและบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนให้เข้ามาใช้บริการด้านคริปโตมากขึ้น ทั้งนี้นักลงทุนสถาบันมักจะหลีกห่างจากสินทรัพย์คริปโตส่วนหนึ่งเนื่องมาจากเหตุผลในด้านระบบความปลอดภัยและมองว่าอุตสาหกรรมคริปโตมีการควบคุมภายในที่หละหลวม
“บุคคลที่สามารถทำงานตรงนี้ได้ต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ในสายงานกำกับดูแลให้กับสถาบันการเงินที่มีมาตรฐานการกำกับดูแบที่เข้มข้น” โจช กู้ดบอดี้ ที่ปรึกษากฎหมายฝ่ายขายและธุรกิจระหว่างประเทศของ Houbi บริษัทซื้อขายเงินคริปโตในสิงคโปร์กล่าวกับรอยเตอร์ในเดือนมิถุนายน 2018 ประสบการณ์ของกู้ดบอดี้เคยทำงานที่ปรึกษากฎหมายให้กับสถาบันการเงินรายใหญ่ในวอลล์สตรีทไม่ว่าจะเป็น State Street Corp และ JPMorgan Chase
ผู้บริหารประสบการณ์สูงบางรายที่เคยเปลี่ยนงานมาทำในสายคริปโตให้ความเห็นว่า ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมทำให้พวกเขาต้องหยุดพิจารณาก่อนเข้ามาร่วมเสมอ
ประธานเจ้าหน้าที่กำกับดูแลของบริษัทซื้อขายคริปโตรายใหญ่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นกล่าวว่า บรรดาผู้ก่อตั้งบริษัทซื้อขายเงินคริปโตมักจะขาดประสบการณ์และความเข้มงวดในการบริหารธุรกิจการเงิน
“ทุกๆวันผมสัมผัสถึงความแตกต่าง” เขากล่าวกับรอยเตอร์ “มันแตกต่างกันมาก มันเหมือนคุณออกจากลีกเบสบอลรายการใหญ่มาสู่รายการเล็ก”
ที่มา: Reuters