- 3 บิ๊กไอที เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ของการทำธุรกิจยุค 4.0 ด้วย “บล็อกเชน” เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก แนะโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในเอเชียและทั่วโลก
- รู้จักแพลตฟอร์มบล็อกเชน Corda กับการนำเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกระจายศูนย์ มาใช้เพิ่มมูลค่าธุรกิจโตก้าวกระโดด
Corda day Bangkok 2018 : Blockchain for Enterprise
3 บิ๊กไอที ร่วมจัดงาน Corda day Bangkok 2018 : Blockchain for Enterprise สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วยหัวข้อสุดล้ำ ลึกถึงแก่นของเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก “บล็อกเชน” สำหรับภาคธุรกิจ R3 ปลื้มนำเสนอ Corda แพลตฟอร์มสำคัญที่เพิ่มประสิทธิภาพพื้นฐานในธุรกิจการเงินอย่างสุดช็อค และกำลังเข้าล็อคกับการใช้ในธุรกิจประเภทอื่น
นายยาซูชิ โอกาโมโตะ Director and Senior Managing Executive Officer, TIS JAPAN
นายยาซูชิ โอกาโมโตะ Director and Senior Managing Executive Officer, TIS JAPAN กล่าวว่า ปัจจุบัน บล็อกเชน ได้ชื่อว่าเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนโลก ในทุกภาคส่วน ที่เห็นได้ชัดคือ ภาคธุรกิจการเงิน และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในการนำมาใช้ปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุค 4.0 ในอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจอื่นๆ เฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรธุรกิจ ผู้ประกอบการ พากันตื่นตัวกับการนำ บล็อกเชนมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ TIS (Japan) ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการ พัฒนา และติดตั้งระบบสารสนเทศ ชั้นนำยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น บริษัท I AM Consulting ที่ปรึกษาด้านไอทีเอ็นเตอร์ไพรส์ ชั้นนำของประเทศไทย และ R3 เจ้าของแพลตฟอร์มบล็อกเชน Corda ร่วมมือกันจัดงาน Corda day Bangkok 2018: Blockchain for Enterprise ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในวันที่ 16 ตุลาคม 2561”
ภายในงาน Corda day Bangkok 2018: Blockchain for Enterprise ร่วมด้วย David E.Rutter ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ R3 เจ้าของแพลตฟอร์มดังระดับโลก Corda มาร่วมพูดคุยถึง การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสร้างนวัตกรรมอันยิ่งใหญ่ให้กับภาคธุรกิจ พร้อมด้วย กรณ์ จาติกวณิช ประธานสมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย มาร่วมผลักดันให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีสำคัญๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตและธุรกิจ
จากข้อมูลของบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด ระบุว่า Blockchain และ Cryptocurrency เป็นจุดเปลี่ยนของระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ของโลก ความรู้ตรงนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากภาคธุรกิจต้องเข้าใจแก่นที่แท้จริง เพราะมีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพิ่มคุณค่าให้สินค้าและบริการในหลายอุตสาหกรรม โดยประเมินกันว่าภายในปี 2025 บล็อกเชนจะเข้าไปช่วยเพิ่มให้สินค้าและบริการมีมูลค่ารวมกันทั่วโลกมากกว่า 1.76 แสนล้านเหรียญ และจะพุ่งสูงกว่า 3.1 ล้านล้านเหรียญภายในปี 2030 ใหญ่กว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันถึง 50%
ทั้งนี้ เทคโนโลยี บล็อกเชน ถูกนำมาปฏิวัติการเก็บข้อมูล ทำให้เกิดการเชื่อมต่อกันได้ทุกจุดเหมือนกับใยแมงมุม (Distributed) เพราะมีการกระจายข้อมูลด้วยการทำซ้ำสำเนาขึ้นมาให้ใครก็ตามเข้ามาดูข้อมูลชุดนั้นๆ ได้ และข้อมูลในบล็อกเชนเมื่อบรรจุไปแล้วจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ทำลายไม่ได้ ทุจริตไม่ได้ เป็นเครือข่ายที่โปร่งใสและปลอดภัย
นายเดวิด อี รุตเตอร์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ R3
นายเดวิด อี รุตเตอร์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ R3 กล่าวถึงเทคโนโลยีบล็อกเชนนี้ว่า “R3 เป็นซอฟท์แวร์บล็อกเชนสำหรับเอนเทอร์ไพรส์ที่มีการทำงานร่วมกันในระบบนิเวศ ที่มีสมาชิกและพาร์ทเนอร์ มากกว่า 200 รายทั่วโลก ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย จากทั้งที่เป็นเอกเชน และองค์กรรัฐ สำหรับ Corda คือ ซอฟท์แวร์บล็อกเชนแพลตฟอร์มด้านการจัดการข้อมูล ที่ทำงานบนนวัตกรรมการประมวลผลแบบกระจายศูนย์ Distribute Ledger Technology (DLT) โดยมีการทำงานข้ามอุตสาหกรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นการเงิน ประกันภัย ซัพพลายเชน สุขภาพ และอื่นๆ โดยนวัตกรรม DLT จะช่วยให้การทำธุรกรรมเกิดขึ้นโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง ด้วยการส่งสำเนาธุรกรรมไปยังผู้ใช้ทุกคนในระบบ และการเข้าถึงข้อมูลส่วนใดส่วนหนึ่งนั่นต้องมีกุญแจรหัสที่ถูกต้อง จึงมีความน่าเชื่อถือและมั่นใจได้ ในประเทศไทย R3 ได้ร่วมทำการกับสถาบันทางการเงินหลายแห่งในโครงการอินทนนท์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานทาง การเงินไทย โดยธนาคารแต่ละแห่งจะร่วมกันออกแบบและพัฒนาระบบต้นแบบของการโอนเงินระหว่างสถาบันการเงิน โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลจำลองที่ออกโดยธนาคารกลาง (Wholesale Central Bank Digital Currency: Wholesale CBDC) บนแพลตฟอร์ม Corda เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา”
นายกริช วิโรจน์สายลี Country Vice President, บริษัท I AM Consulting จำกัด
ด้าน นายกริช วิโรจน์สายลี Country Vice President, บริษัท I AM Consulting จำกัด ผู้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่องค์กรธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย กล่าวว่า “งานนี้จะทำให้คุณได้มองเห็นโอกาส ในการ สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มบล็อกเชน DLT ของ Corda ซึ่งถูกนำมาใช้ในกลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคาร การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจด้วย Corda ที่ทำให้เกิดภูมิทัศน์ใหม่ของการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมการวิเคราะห์เจาะลึกกรณีศึกษาจากธุรกิจประกันภัย ธุรกิจพลังงานและน้ำมัน”
สำหรับ Corda day Bangkok 2018: Blockchain for Enterprise จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 โดยได้รับความสนใจและตอบรับเข้าร่วมงานจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจหลากหลายแขนง มาร่วมเพิ่มเติมเรียนรู้และมองหาโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดภายใต้การก้าวสู่ยุคที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังเข้ามาดิสรัปต์ในทุกภาคส่วน
“วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ภาคธุรกิจ องค์กร ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมใดๆ ก็ตาม ควรปรับตัวและเตรียมพร้อมเพื่อก้าวไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ ซึ่ง I AM Consulting และ R3 ก็พร้อมที่จะช่วยให้องค์กร และธุรกิจ สามารถข้ามสู่จุดหมายดังกล่าวได้เทคโนโลยี” นายกริชกล่าวเสริม
