แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวแพล็ตฟอร์มการท่องเที่ยวแบบใหม่ All-Inclusive ครอบคลุมทุกแบรนด์ในเครือเพื่อยกระดับการบริการที่ทั่วโลกไว้วางใจ
แมริออทตั้งเป้าเติบโตในตลาดการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่าย all-inclusive โดยใช้ โปรแกรม “แมริออท บอนวอย” และ แบรนด์ขึ้นหิ้งอย่าง เดอะ ริตซ์-คาร์ลตัน และเวสทิน โฮเท็ล แอนด์ รีสอร์ท แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลเตรียมเข้าบริหารรีสอร์ทแบบ all inclusive 5 แห่ง ที่มีห้องพักรวมกันกว่า 2,000 ห้องเป็นเม็ดเงินลงทุนกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (NASDAQ: MAR) ประกาศเปิดตัวแพล็ตฟอร์การท่องเที่ยวแบบเหมาจ่าย (all-inclusive) เพื่อตอบรับกระแสความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคทั่วโลกที่กำลังมองหาการท่องเที่ยวและที่พักระดับพรีเมี่ยมในรูปแบบการจ่ายครั้งเดียวจบ (all-inclusive) เพื่อความสบายใจ ไร้กังวล ซึ่งตลาดการท่องเที่ยวในแนวนี้ นับวันยิ่งได้รับความนิยมและเติบโตมากขึ้นเป็นลำดับ พร้อมกันนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้ประกาศการลงนามในสัญญาบริหารร่วมกับนักพัฒนาโรงแรมที่มีแผนจะสร้างรีสอร์ทใหม่ถึง 5 แห่งเพื่อรองรับการท่องเที่ยวในแบบ all-inclusive ด้วยเงินลงทุนกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท) เป็นการแสดงถึงความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ โปรแกรมลอยัลตี้ และความยิ่งใหญ่ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล โดยรีสอร์ทเหล่านี้จะทยอยเปิดให้บริการในระหว่าง พ.ศ. 2565 ถึง พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป
“ที่พักแบบ all-inclusive ใหม่ของเราเป็นอีกหนึ่งก้าวเพื่อการตอบโจทย์ที่ลงตัวของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล” นายโทนี่ คาปูอาโน่ รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาระดับสากลของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “มันจะช่วยให้กลุ่มผู้ลงทุนสามารถสร้างมูลค่าให้กับรีสอร์ทหรูระดับพรีเมี่ยมของพวกเขาได้ในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในขณะเดียวกัน แขกก็จะมีทางเลือกใหม่ๆ ในการท่องเที่ยวและพักแรมกับแบรนด์ที่พวกเขาวางใจ”
ทั้งนี้ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ยังมีแผนที่จะขยายแนวคิด all-inclusive นี้ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ทั้งกับสถานที่ที่จะสร้างขึ้นใหม่และปรับใช้กับรีสอร์ทเดิมที่มีอยู่แล้ว รวมถึงที่พักต่างๆ ที่อยู่ภายใต้พอร์ตโฟลิโอของ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ในปัจจุบันด้วย แพล็ตฟอร์มใหม่นี้จะช่วยให้สมาชิกแมริออท บอนวอย (Marriott Bonvoy) จำนวน 133 ล้านคนมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการสะสมและใช้แต้มที่มีภายใต้แนวคิดแบบจ่ายครั้งเดียวจบที่สุดแสนสะดวกนี้ทันที
กว่า 2,000 ห้องพักเตรียมเปิดให้บริการ ไม่นานเกินรอ
สัญญาบริหารฉบับล่าสุดที่ทางแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลได้ลงนามนี้ระบุไว้ว่าจะมีการส่งมอบที่พักในแบบ all-inclusive ห้าแห่งในแถบลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ซึ่งเมื่อนับรวมทั้งหมดแล้วจะมีขนาดจำนวนห้องพักกว่า 2,000 ห้อง
รีสอร์ทที่อยู่ภายใต้แผนงานนี้ได้แก่
- ปุนตากานา สาธารณรัฐโดมินิกัน
- รีสอร์ท ออโต้กราฟ คอลเลคชั่น (Autograph Collection) ขนาด 650 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2565)
- ไนอา ริเวียร่านายาริต ประเทศเม็กซิโก
- รีสอร์ท เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน (The Ritz-Carlton) ขนาด 240 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2566)
- รีสอร์ท เวสทิน โฮเท็ลส์ (Westin Hotels) ขนาด 400 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2566)
- รีสอร์ท ออโต้กราฟ คอลเลคชั่น (Autograph Collection) ขนาด 300 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2568)
- รีสอร์ท แมริออท โฮเท็ลส์ (Marriott Hotels) ขนาด 500 ห้อง (คาดว่าจะเปิดในปี 2568)
บริษัท อาร์ธา แคปิตัล (Artha Capital) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริษัทเงินทุนเอกชนชั้นนำในกรุงเม็กซิโก
มีแผนที่จะสร้างไนอา (NIA) ให้เป็นหนึ่งในเรือธงแห่งสุดยอดจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวในแบบ all-inclusive ซึ่งจะมีที่พักภายใต้แบรนด์หรูสุดพรีเมี่ยมของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลอยู่รวมกันถึงสี่แห่งในบริเวณริเวียร่านายาริตของเม็กซิโก โครงการนี้จะตั้งตระง่านอยู่บนพื้นที่ 220 เอเคอร์ (หรือกว่า 556 ไร่) ในดินแดนทรอปิคอลเลียบแนวชายฝั่งแปซิฟิก
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อสร้างสรรค์สุดยอดจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ และเป็นหนึ่งเดียวไม่ซ้ำใครในเขตริเวียร่านายาริตของเม็กซิโก ที่จะสามารถมอบประสบการณ์
อันแตกต่างจากสี่แบรนด์ดังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” นายเจอราร์โด เฟอร์นานเดซ กรรมการผู้จัดการฝ่ายแพล็ตฟอร์ม
สถานบริการแห่งอาร์ธา แคปิตัล กล่าว “การรวบรวมแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมที่มีความหรูหรามาผสานเข้ากับความงดงาม
ของพื้นที่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรนี้ เปิดโอกาสให้เราสามารถสร้างนิยามใหม่ให้กับคำว่า ‘all-inclusive vacationing’
ได้อย่างแท้จริง เราเชื่อมั่นในแบรนด์แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และโปรแกรมลอยัลตี้ในเครือ และเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”
“เราตื่นเต้นมากที่จะได้พัฒนารีสอร์ทแบบ all-inclusive ภายใต้ชื่อ ออโต้กราฟ คอลเลคชั่น ในสาธารณรัฐโดมินิกันร่วมกับทางแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล” นายมิฮาร์อิล โปปอฟ ประธานบริหารของ DIT Hotels ประจำกรุงโซเฟีย สาธารณรัฐบัลแกเรีย กล่าว “การได้ร่วมงานกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล หมายความว่า เราจะได้เข้าถึงความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ การออกแบบและการสร้างแบรนด์ไปพร้อมๆ กับการพัฒนารีสอร์ทในปุนตากานา และทันทีที่เราเปิดให้บริการ เราก็จะได้รับประโยชน์จากความเป็นเลิศในการบริหารงานของบริษัทฯ และมีฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกแมริออท บอนวอยทันที ซึ่งคนกลุ่มนี้มักมองหารูปแบบของประสบการณ์ที่แปลกใหม่อยู่เสมอ”
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลยกระดับแบรนด์จับส่วนตลาดการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่าย
เมื่อความต้องการในส่วนตลาดการท่องเที่ยวและที่พักแบบเหมาจ่ายระดับพรีเมี่ยมเติบโตสูงขึ้น แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล จึงมีแผนสร้างแพล็ตฟอร์มนี้ขึ้นมา โดยต่อยอดจากชื่อเสียงอันโด่งดังของแบรนด์ที่พักหรูระดับฟูลเซอร์วิสในเครือ ไม่ว่าจะเป็น เดอะ ริทซ์ คาร์ลตัน (The Ritz-Carlton), ลักซ์ชูรี คอลเลคชั่น (Luxury Collection), แมริออท โฮเท็ลส์ (Marriott Hotels), เวสทิน โฮเท็ลส์ (Westin Hotels), ดับเบิ้ลยู โฮเท็ลส์ (W Hotels) , ออโต้กราฟ คอลเลคชั่น (Autograph Collection) และเดลต้า บาย แมริออท (Delta by Marriott) แขกที่มาพักจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์การพักผ่อนในรูปแบบจ่ายครั้งเดียวจบ พร้อมไปกับการได้อิ่มเอมกับความงามของการออกแบบตกแต่ง ความอร่อยของอาหารรสเลิศ และความสบายจากสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำกัน ให้เลือกได้ตามต้องการ เช่น รีสอร์ทแบบเหมาจ่ายภายใต้แบรนด์แมริออท โฮเท็ลส์ จะเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว ในขณะที่ ถ้าเป็นรีสอร์ทภายใต้แบรนด์ดับเบิ้ลยู โฮเท็ลส์ จะเหมาะกับผู้ใหญ่ทั่วๆ ไปมากกว่า
“ความหลากหลายและความเป็นสากลของแบรนด์ของเราช่วยให้แขกมีโอกาสเลือกรับประสบการณ์ได้อย่างที่ต้องการจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในรูปแบบใด หรือที่ใด” ทีน่า เอ็ดมุนด์สัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ระดับสากล ของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “การเพิ่มทางเลือกใหม่นี้เข้ามาในพอร์ตโฟลิโอของเรา ช่วยให้เราสามารถมอบโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว ให้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าทึ่งในแบรนด์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในแบบเวสทิน หรือในแบบดับเบิ้ลยู คุณก็สามารถเข้าถึงได้ด้วยการท่องเที่ยวแบบเหมาจ่าย”
รีสอร์ทต่างๆ บนแพล็ตฟอร์มเหมาจ่ายของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย อาหารมากมายให้เลือกลิ้มลอง และตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกวัยในรูปแบบจำเพาะของแต่ละแบรนด์ สำหรับผู้ใหญ่ทั่วไป โปรแกรมเหมาจ่ายอาจจะรวมถึงฟิตเนสและสปา สิทธิ์ในการเข้ารับประทานอาหารในภัตตาคารหรูโดยไม่ต้องมีการจองล่วงหน้า สระว่ายน้ำและบาร์สำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะ รูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ไนต์คลับในที่พัก และโปรแกรมเครื่องดื่มพรีเมี่ยมแบบไม่จำกัด สำหรับรีสอร์ทที่เน้นครอบครัว โปรแกรมเหมาจ่ายอาจจะรวมกีฬาทางน้ำหรือกิจกรรมกีฬาอื่นๆ คลับนวัตกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน และสถานที่เพื่อความบันเทิงและสันทนาการอื่นๆ อีกมากมาย
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดรับประสบการณ์อันทรงคุณค่าของส่วนตลาดการท่องเที่ยวในแบบเหมาจ่ายหลังจากการเข้าซื้อธุรกิจของกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทสตาร์วูดในปี 2559 และเข้าบริหารงานที่พักที่มีแนวคิดแบบ all-inclusive เป็นครั้งแรกซึ่งก็คือที่ เวสทิน กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา ด้วยขนาด 406 ห้องพัก ในปลายาคอนชัล ประเทศคอสตาริกา
ข้อความแสดงการคาดการณ์ในอนาคต (Forward-Looking Statements)
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีข้อความแสดงการคาดการณ์ในอนาคต (forward-looking statements) ตามนิยามแห่งกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงการอ้างอิงจำนวนสิทธิครอบครองในที่พักอาศัยที่ทางบริษัทฯ อาจมีเพิ่มได้ในอนาคต ความเป็นไปได้ในการขยายตัวและการนำเสนอที่พักในรูปแบบใหม่ และเนื้อหาในทำนองเดียวกันนี้ที่เป็นการคาดการณ์ในอนาคตและมิใช่ข้อเท็จจริงในอดีต บริษัทฯ ขอย้ำว่าข้อความเหล่านี้มิใช่คำรับรองถึงผลงานในอนาคต และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้จากความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในหลายปัจจัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด การเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานด้านโรงแรมหรือรูปแบบที่พักอาศัยอื่นๆ สภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่พักอาศัย ความสัมพันธ์กับลูกค้าและเจ้าของกรรมสิทธิ์ ความสามารถในการจัดหาทุนเพื่อการขยายและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทางบริษัทฯ ได้ระบุไว้ในรายงานประจำปีฉบับล่าสุดตามแบบฟอร์ม 10-K หรือในรายงานประจำไตรมาสฉบับล่าสุดตามแบบฟอร์ม 10-Q ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นล้วนมีผลกระทบให้เหตุการณ์จริงแตกต่างไปจากการคาดการณ์ที่ได้ระบุไว้ในที่นี้ ข้อความแสดงการคาดการณ์ทั้งหมดที่ปรากฏในข่าวนี้ อ้างอิงจากข้อมูลที่บริษัทฯ มีอยู่จนถึงวันตีพิมพ์ บริษัทฯ ไม่มีภาระผูกพันใดๆ ในการตามแก้ไขปรับเปลี่ยนข้อมูลคาดการณ์เหล่านี้ในกรณีที่มีข้อมูลใหม่หรือเหตุการณ์ในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลง